ปกติแล้ว Ripple จะปลดล็อกเหรียญ XRP จำนวน 1 พันล้านเหรียญจากระบบ escrow ตามที่ได้โปรแกรมไว้ และในวันที่ 1 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ จะมีการปลดล็อกเหรียญจำนวนสามธุรกรรม ได้แก่ 100 ล้าน, 400 ล้าน และ 500 ล้าน XRP ตามลำดับ
สิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับการปลดล็อกครั้งนี้คือจะมีเหรียญถูกปล่อยออกมา 1.86% ของอุปทานหมุนเวียนปัจจุบัน และจะยังเหลืออีก 46.43 พันล้าน XRP ที่ยังคงถูกล็อกเอาไว้อยู่ และจะทำการทยอยปล่อยในทุกๆ เดือนจนกว่าจะถึงเดือนเมษายน ปี 2027
โดยการปลดล็อกธุรกรรมทั้ง 3 นี้ จะเริ่มต้นขึ้นในนาทีสุดท้ายของวันที่ 31 ตุลาคม และจะมีการปล่อยเหรียญออกจาก Wallet ของ Ripple จำนวนสองแห่งออกไป ได้แก่
Wallet “Ripple (22) ” — โดยจะปลดล็อก 100 ล้าน XRP ที่ถูกล็อกในวันที่ 3 กันยายน 2019 ในรหัสธุรกรรม “7EF17…CDA6F”
Wallet “Ripple (22) ” — โดยจะปลดล็อก 400 ล้าน XRP ที่ล็อกไว้เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2019 ในรหัสธุรกรรม “E0D06…DA8EA”
Wallet “Ripple (23) ” — โดยจะปลดล็อก 500 ล้าน XRP ที่ล็อกไว้เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2019 ในรหัสธุรกรรม “0ECCB…F84E3”
แม้การปล่อยเหรียญจำนวนมากนี้จะฟังดูน่ากลัว ซึ่งก็ได้มีนักลงทุนบางส่วนมองว่าการปล่อยเหรียญจำนวนมากเข้ามาในตลาดนั้นอาจเป็นความพยายามในการควบคุมราคาของเหรียญ
แต่ตลอดช่วงเวลาที่ Ripple เคยได้ปลดล็อกเหรียญมา ทางบริษัทกลับใช้เหรียญที่ได้มาในการใช้จ่ายหรือขายเพียงบางส่วนเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม แม้ไม่แน่ชัดว่าการปล่อยเหรียญจะส่งผลต่อราคาหรือไม่ นักลงทุนก็ไม่ควรที่จะประมาณเพราะ Ripple เองก็ทยอยโอนเหรียญของตัวเองไปยังกระดานเทรดอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งก็ต้องมาติดตามกันต่อไปว่าการปล่อยเหรียญครั้งนี้จะส่งผลต่อราคาเหรียญหรือไม่
โดยข้อมูลจาก CoinMarketCap ในตอนนี้ XRP มีราคาซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 0.61 ดอลลาร์ ซึ่งในช่วง 24 ชั่วโมงและ 7 วันที่ผ่านมา ราคาเหรียญได้เพิ่มขึ้นไป 7% และ 4.49% ตามลำดับ
ที่มา: finbold