นักวิเคราะห์จากธนาคาร Morgan Stanley คาดการณ์ว่าเงินเกือบครึ่งล้านล้านดอลลาร์จะไหลออกจากธนาคารของสหรัฐ หลังจากกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ออกตั๋วคลังเงิน (T-Bill) ชุดใหม่
สื่อ CNBC รายงานว่า ธนาคาร Morgan Stanley คาดว่าจะมีการออก T-bill สุทธิ 1.364 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปีนี้ โดย 1 ล้านล้านดอลลาร์จะออกในช่วง 4 เดือนข้างหน้าเท่านั้น
ธนาคารกล่าวว่าพันธบัตรสหรัฐระลอกใหม่น่าจะสร้างแรงกดดันอย่างมากต่อธนาคารที่ไม่สามารถแข่งขันกับอัตราผลตอบแทนของรัฐบาลได้
Betsy Graseck นักวิเคราะห์จากธนาคาร Morgan Stanley ได้กล่าวว่า
“ทีมของเราเห็นว่า เงินส่วนนี้มาจากเงินสำรองของธนาคาร โดยคาดว่าจะมีการไหลออกรวมกันประมาณ 4.5 แสนล้านดอลลาร์ในช่วง 4 เดือนข้างหน้า”
หุ้นกลุ่มธนาคารสหรัฐฟื้นตัวขึ้นเรื่อย ๆ ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมาซึ่งในตอนนั้นได้รับผลกระทบจากการล้มละลายของสถาบันการเงินขนาดใหญ่หลายแห่ง
อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลของ Graseck การฟื้นตัวในครั้งอาจอยู่ได้ไม่นานหากธนาคารยังมีการไหลออกของเงินฝาก
“การไหลออกของเงินฝากครั้งต่อไปจะทำให้หุ้นธนาคารไม่ฟื้นตัวในไตรมาสปัจจุบัน”
นักวิเคราะห์ของธนาคาร JPMorgan ได้คาดการณ์ว่าจำนวน T-bill จะออกมาน้อยกว่าที่ธนาคาร Morgan Stanley คาดการณ์ไว้ โดยออกที่ประมาณ 1.1 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงที่เหลือของปี 2023
Gennadiy Goldberg นักยุทธศาสตร์ของ TD Securities ได้พูดเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า
“ใคร ๆ ก็รู้ว่าน้ำท่วมกำลังจะมา ผลผลิตจะราคาแพงขึ้นเพราะน้ำท่วมครั้งนี้ ตั๋วเงินคลังจะถูกลง และนั่นจะสร้างแรงกดดันให้กับธนาคาร”
“อัตราผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้ธนาคารต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก”
ในบันทึกงานวิจัยเมื่อเร็ว ๆ นี้ ธนาคาร Morgan Stanley ได้กล่าวว่า แม้ว่ารัฐบาลสหรัฐฯ จะมีข้อตกลงในการเพิ่มเพดานหนี้และการรักษาเสถียรภาพในตลาด แต่ความผันผวนของตลาดก็อาจจะมีเกิดขึ้น โดยนักวิเคราะห์ได้อ้างอิงถึงเหตุการณ์ปี 2011 ในช่วงที่ตลาดปรับฐานหนัก ๆ หลังจากรัฐบาลมีข้อยุติเกี่ยวกับวิกฤตเพดานหนี้
“ท่ามกลางฉากหลังนี้ ความสงบที่แผ่ซ่านไปทั่วทั้งตลาดอาจไม่ยั่งยืน ความผันผวนของตราสารทุน อัตราดอกเบี้ย และตลาดสินเชื่ออาจจะน้อยและต่ำกว่าระดับเดือนมีนาคม อย่างไรก็ตาม เมื่อเรามองย้อนไปในปี 2011 ตอนนั้นเราก็เห็นว่าตลาดมันสงบนิ่งก่อนวัน X-date แต่หลังจากนั้นตลาดก็เกิดการผันผวนของอย่างรุนแรง”
“ในช่วง 3 สัปดาห์หลังจากการลงมติ ดัชนี S&P 500 ร่วงมากกว่า 12%, อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีลดลง 70 จุด และส่วนต่างดัชนีพันธบัตรที่ให้ผลตอบแทนสูงเพิ่มขึ้นมากกว่า 160 จุด”
Source: DailyHodl