ก่อนเราจะเข้าสู่เนื้อหาทำความรู้จักชายคนนี้ เรามีดูกันก่อนดีกว่าว่า Tether นั้นคืออะไร และทำไมถึงมีความสำคัญ
Tether เป็นบริษัทผู้อยู่เบื้องหลังโปรเจกต์เหรียญ Stablecoin ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดเลยอย่าง ( USDT) แม้จะมีวอลุ่มเทรดที่น้อยกว่า Bitcoin หรือ ราชาแห่งเหรียญ Altcoin อย่าง Ethereum แต่ USDT กลับมีวอลุ่มการเทรดสูงกว่าใครเพื่อน เนื่องจาก USDT นั้นเป็นเหรียญ Stablecoin ที่ถูกดีไซน์มาให้ peg มูลค่ากับเงินดอลลาร์ ทำให้ตัวมันมีคุณค่าที่ชัดเจน และยังคงเป็นเหรียญ Stablecoin อันดับหนึ่งเสมอมา
ผู้คนใช้ USDT ทั้งในการเทรด ชำระเงิน หรือ hedge พูดง่าย ๆ ก็เหมือนใช้เงินกันจริง ๆ เพียงแค่ตัวมันเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล ดังนั้นหากเกิดอะไรขึ้นกับมัน ตลาดคริปโตก็จะต้องจมลงไปกับมันอย่างไม่ต้องสงสัย
Paolo Ardoino เขาคือใคร ?
จุดเริ่มต้น
ตัวของ Paolo นั้นเกิดที่เมือง genoa ประเทศอิตาลี ตัวเขานั้นชื่นชอบหลงใหลในคอมพิวเตอร์ตั้งแต่อายุยังน้อย โดยคุณพ่อของเขายอมซื้อคอมพิวเตอร์ที่สมัยนั้นมีราคาที่สูงมากให้เขาได้ใช้งาน เขาเคยโดนอาจารย์คณิตศาสตร์ของเขาหาว่าเขา เอาทั้งเงินและเวลาไปเสียกับของไร้สาระอย่างคอมพิวเตอร์ แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจ และใช้เวลาไปกับการใช้คอมพิวเตอร์มากกว่าเล่นกับเพื่อน ๆ จนเขาเบื่อโปรแกรมต่าง ๆ ที่มีในขณะนั้น ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจ เรียนเขียนโค้ดเพื่อสร้างเกมขึ้นมาเล่นเอง ความชื่นชอบนี้ยังส่งผลให้ในอนาคตเขาจะเป็นคนแรกๆที่สนับสนุนการใช้งานระบบ Linux โปรแกรม open source os อีกด้วย
ตัวเขานั้นได้ทำการศึกษาที่มหาวิทยาลัยใกล้บ้านใน Genoa และได้เรียนวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ และ คณิตศาสตร์ โดยขณะที่เรียนเขาได้ให้ความสนใจโปรแกรมประเภท peer-to-peer เป็นอย่างมากเช่น Bittorrent จนมาถึงช่วงที่เขาจบการศึกษา เขาได้ทำงานวิจัยกับนักวิจัย 3 คนในโปรเจกต์ “resilient networking” ที่จะช่วยให้คนสามารถติดต่อสื่อสารกันได้แม้อยู่ในสภาวะไม่เอื้ออำนวย ตัวของเขาชอบงาน แต่ด้วยค่าแรงที่ได้รับไม่สมเหตุสมผลเขาจึงเลือกที่มองหางานอื่น ๆ
Paolo เริ่มต้นเรียนเศรษฐศาสตร์และการเงิน จนเขาสามารถเข้าทำงานแรกได้ โดยเขาทำหน้าที่ดีไซน์ระบบการเทรด เวลาผ่านไปจนถึงปี 2013 เขาได้ย้ายมายังลอนดอน เปิดบริษัท startup เล็ก ๆ ชื่อ Fincluster ซึ่งจัดจำหน่าย trading software สำหรับ hedge fund
พบกับทีม
ในช่วงหนึ่งของชีวิตเขา เขาได้รับคำเชิญให้ร่วมงานจาก Giancarlo Devasini ที่ทำงานกับ Bitfinex อยู่ในขณะนั้น ร่วมด้วย Stuart Hoegner และ Jean-Louis van der Velde การพบพานกันในครั้งนั้นได้ให้กำเนิดสุดยอดทีม ที่จะนำ Tether ออกสู่ตลาดในอนาคตอันใกล้ และกลายเป็นทีมพัฒนาของเหรียญ Stable Coin ที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดเหรียญหนึ่งในโลกคริปโต
Company Man
ตัวของ Paolo นั้นเป็นหน้าเป็นตาให้กับ Tether มาหลายปีแล้ว การขึ้นเป็น CEO ของเขาจึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ สาเหตุที่เขาได้ชื่อว่าเป็นชายที่ทำงานหนักที่สุดในโลกคริปโตเป็นเพราะว่า อ้างอิงจาก Github ที่เขาได้เขียนโค้ดลงไปแล้วมากกว่า 3,275 โค้ดในปีนี้ ซึ่งค่าเฉลี่ยของวิศวกรแบบงานประจำเต็มเวลาอยู่ที่ 2-3 โค้ดต่อวัน และยิ่งหากลองย้อนลงไปในปี 2017 เข้าได้ร่วมทำการพัฒนาเป็นจำนวน 37,720 ครั้ง มิหนำซ้ำตัวเขาเองนั้นยังควบตำแหน่งเป็น CTO ของ Bitfinix แพลทฟอร์มเว็บเทรดขนาดใหญ่ และ ก่อตั้ง Holepunch แพลทฟอร์มการสื่อสารแบบ P2P ที่เขาเองดำรงตำแหน่งเป็น chief strategy officer อีกด้วย
Paolo เคยให้สัมภาษณ์ว่าเขาไม่มี passion อื่นใดนอกเหนือจากสิ่งที่เขาทำอยู่ และการเรียนศิลปะการต่อสู้เป็นสิ่งเดียวที่สามารถรั้งไม่ให้เขาจดจ่ออยู่ที่นั่งหน้าคอมเพียงอย่างเดียวได้
สรุป
Paolo Ardoino คือชายที่ทุ่มเทให้กับงานเป็นอย่างมาก ด้วย passion ที่ร้อนแรงกับงานที่เขารัก ทำให้เขานั้นสามารถทำงานได้หนักหน่วงขนาดนี้ ผลงานของเขานั้นพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เขาคือคนที่จริงจังกับสิ่งที่ทำ และพร้อมที่จะทุ่มเททุกอย่างเพื่อที่จะให้งานนั้นออกมาดีที่สุด ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยที่ Tether จะกลายโปรเจกต์เหรียญ StableCoin เบอร์หนึ่งที่ครองใจนักเทรดและอยู่คู่กับตลาดคริปโตมาจวบจนถึงทุกวันนี้
ที่มา : Coindesk
ที่มาภาพ : CCN
