ในวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา คุณหนึ่ง ปรมินทร์ ผู้ก่อตั้ง Satang Pro และผู้ก่อตั้งเหรียญ Firo รวมถึง ดร.ณปภัช ปิยไชยกุล หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ดร.บิ๊ก” เจ้าของช่อง YouTube ที่ชื่อ “The Big Secret Channel” ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นในประเด็น “Spot Bitcoin ETF จะเกิด หรือดับ”ผ่านรายการหนุ่ยทอล์ก
หาก Spot Bitcoin ETF ไม่ได้รับอนุมัติ ราคา Bitcoin ไม่น่าลดลงต่ำกว่า 30,000 ดอลลาร์
ในช่วงหนึ่งของรายการ คุณหนึ่งได้แสดงความคิดเห็นถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับ Bitcoin ว่า :
“หาก Spot Bitcoin ETF ไม่ได้รับอนุมัติ ราคา bitcoin คงไม่ลงต่ำไปกว่า 30,000 ดอลลาร์ ในมุมมองของผม เพราะว่า ผมคิดว่ามันไม่ควรจะลงไปมากกว่านี้ เนื่องจากด้วยตัวเม็ดเงินเอง จะเห็นว่าตั้งแต่มีข่าว ETF ขึ้นมา ราคา bitcoin มันขึ้นมาตลอด จากราวๆ 30,000 ดอลลาร์ หรืออาจจะประมาณ 2 หมื่นปลาย ๆ ขึ้นมาเรื่อยๆ จนมาถึงปัจจุบันที่ Spot bitcoin ETF ยังไม่ได้อนุมัติ ราคา bitcoin จะอยู่ที่ประมาณ 44000ดอลลาร์ – 45000 ดอลลาร์ เพราะมันมีแรงมวลชนที่ ใส่จำนวนเงินเข้ามาอยู่”
คุณหนึ่งกล่าวเสริมว่า “ต่อให้ไม่อนุมัติ ผมมองว่า ราคา bitcoin ก็ไม่น่าจะลดลงไปเยอะ เพราะสามารถแก้ไขให้ไปอยู่ในรอบถัดไปไดั รวมไปถึงในส่วนของตัว bitcoin having ที่จะเกิดขึ้นด้วย ที่มีจำนวน bitcoin ที่จะผลิตน้อยลง ผมเลยมองว่าราคา bitcoin ยังไปได้”
“รวมไปถึงสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน ที่ธนาคารกลางจะลดดอกเบี้ย มันก็เลยทำให้นักลงทุนจะต้องเอาเงินที่มีอยู่ไปลงทุนในสินทรัพย์อย่างอื่น แทนที่จะซื้อพันธบัตรไว้อย่างเดียว ผมมองว่า พันธบัตรรัฐบาลมันให้ผลตอบแทนน้อย มันก็จะเป็นตัวผลักดันให้เอาเงินลงทุนส่วนอื่นมาลงทุนในคริปโต บิตคอยน์ ได้ในอีกทางหนึ่ง” คุณหนึ่งกล่าวเสริม
Bitcoin คือ decentralize แต่ถ้าสถาบันเข้ามารองรับมาก ๆ จะกลายเป็น Centralize
ดร.ณปภัช ปิยไชยกุล หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ดร.บิ๊ก” เจ้าของช่อง YouTube “The Big Secret Channel” ได้ให้สัมภาษณ์ถึง Bitcoin ว่า :
“นี่คืออีกบททดสอบนึงว่า bitcoin ว่าจะมีความแข็งแกร่งผ่านไปได้ไหม เรื่องราคาบิตคอยน์ เป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจ คนที่เข้ามาถือ bitcoin มีคนอยู่ 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งเห็นว่า bitcoin เป็นศูนย์กลางการเงิน แบบไร้ศูนย์กลาง 1 btc เท่ากับ 1 btc แต่ก็ต้องยอมรับว่ามีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่อยากซื้อถูก แล้วขายแพงๆ เพื่อทำกำไร กลุ่มนี้มีค่อนข้างเยอะ ก็เป็นจุดหนึ่งที่ทำให้เกิดความย้อนแย้ง
ส่วนหนึ่งก็เข้ามาลงทุนใน bitcoin ก็อยากจะประสบความสำเร็จ ด้านการทำกำไร อีกกลุ่มหนึ่งก็อยากจะให้มันเป็นเงินจริงๆ ซึ่ง มีหลายเหตุผลที่ต้องดูกันต่อไป
แต่ในมุม fundamental ไม่ได้เปลี่ยนไป ทุกอย่างยังเหมือนเดิม”
ที่มา : หนุ่ยทอล์ก