<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

นักวิเคราะห์ชื่อดัง ‘PlanB’ คาดการณ์ว่าราคา Bitcoin จะพุ่งถึง 55,000 ดอลลาร์ได้หลังจากเหตุการณ์ Halving

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เทรดเดอร์และนักวิเคราะห์ราคาคริปโตชื่อดังอย่าง PlanB ได้ออกมาคาดการณ์ผ่านวิดีโอ YouTube ล่าสุดของเขาว่า ราคา Bitcoin อาจพุ่งขึ้นไปสูงถึง 55,000 ดอลลาร์ได้ หลังจากที่เหตุการณ์ Bitcoin Halving เกิดขึ้น

เหตุการณ์ Bitcoin Halving คือปรากฏการณ์ที่ทำให้นักขุดเหรียญได้รับรางวัลในการขุด Bitcoin ลดลงครึ่งหนึ่งทุกๆ 210,000 บล็อก หรือประมาณ 4 ปี และในปี 2024 นี้ รางวัลที่ได้จากการขุดจะลดจาก 6.25 BTC เหลือเพียง 3.125 BTC

ซึ่งการที่จำนวนเหรียญที่ถูกผลิตออกมาน้อยลงนั้น ก็จะส่งผลให้ตัวเหรียญมีความต้องการที่มากขึ้น และจะส่งผลให้ราคาเหรียญถูกผลักดันให้เพิ่มขึ้นไปด้วยนั่นเอง

โดยทาง PlanB นั้นได้หยิบยกโมเดล Stock-to-Flow มาใช้ในการประเมินความขาดแคลนของ Bitcoin และได้ชี้ว่า ในตอนนี้ Bitcoin กำลังอยู่ในช่วง “ขั้นตอนการสะสม” ซึ่งเป็นช่วงก่อนที่ราคาเหรียญจะพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง

และตัวเขาได้ทำนายว่า ราคา Bitcoin เพิ่มขึ้นมาแตะ 55,000 ดอลลาร์แล้ว มันจะส่งผลให้ราคาเหรียญมีแนวโน้มที่จะเติบโตในระยะสั้น และอาจจะเพิ่มขึ้นมาถึง 60,000 ดอลลาร์ได้ภายในเวลาอีก 4 เดือนต่อจากนั้น

นอกจากนี้ตัวเขาเชื่อว่าเหตุการณ์ Halving นั้นจะส่งผลต่อราคา Bitcoin ในระยะยาวมากกว่า โดยตัวเขาได้คาดการณ์ว่าราคาเหรียญจะพุ่งขึ้นไปสูงถึง 100,000 ดอลลาร์ภายในสิ้นปีนี้ และอาจพุ่งขึ้นไปถึง 532,000 ดอลลาร์ได้ภายในปี 2025

สิ่งที่น่าสนใจคือการคาดการณ์ของเขาอยู่ในช่วงเวลาที่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา (SEC) ใกล้ที่จะต้องตัดสินการอนุมัติกองทุน Spot Bitcoin ETF ในอีกไม่กี่วันต่อจากนี้

อย่างไรก็ตาม ตลาดจะคาดหวังว่าทาง SEC จะอนุมัติกองทุนดังกล่าว และส่งผลให้ราคาเหรียญพุ่งขึ้นไปอย่างรุนแรง แต่จากการวิเคราะห์ของ Matrixport เผยว่า Bitcoin ETF อาจถูกปฏิเสธได้ และจะส่งผลให้ราคา Bitcoin ร่วงลงไปถึง 40,000 ดอลลาร์ได้เลย

ที่มา: CryptoPolitan