ในขณะนี้แพลตฟอร์มเว็บเทรดคริปโตในประเทศไทยเริ่มแจ้งให้ลูกค้าทราบเกี่ยวกับเกณฑ์ภาษีคริปโตที่อาจเกิดขึ้น จากกิจกรรมการซื้อขายคริปโตในประเทศไทยแล้ว
ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังจากนโยบายภาษีล่าสุดที่รัฐบาลไทยเพิ่งประกาศไป โดยก่อนหน้านี้ กรมสรรพากรได้ประกาศแผนการปรับโครงสร้างด้านภาษี ซึ่งส่งผลให้บุคคลที่ได้รายได้จากคริปโต จำเป็นต้องเสียภาษีบางประเภท
ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในด้านกฎหมายภาษี คริปโต เว็บเทรดคริปโตในประเทศไทย ก็เริ่มแจ้งเตือนลูกค้าถึงการเปลี่ยนแปลงนี้แล้ว โดยเฉพาะ Bitkub แพลตฟอร์มเว็บเทรดคริปโตชื่อดัง ที่ได้อัพเดทข้อมูลในส่วนคำถามที่พบบ่อย (FAQs) บนหน้าเว็บไซต์ เพื่อสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้
ตามข้อมูลที่ให้ไว้ ผู้เสียภาษี Crypto ตามหมวดหมู่ของหน่วยงานด้านภาษี ได้แก่ บุคคลที่ขาย ชำระเงิน โอน หรือเทรดสกุลเงินดิจิตอล/โทเคนดิจิทัล ผ่านผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลหรือตลาดแลกเปลี่ยนที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แห่งประเทศไทย นอกจากนี้ยังรวมถึงนักขุด crypto และบุคคลที่มีรายได้จาก cryptocurrency
นอกจากนี้ หน้าเว็บไซต์ในส่วนคำถามที่พบบ่อย (FAQs) ยังให้รายละเอียดเกี่ยวกับภาษีที่เรียกเก็บจากสินทรัพย์ดิจิทัลที่ผู้ใช้งานถือครองอยู่ อย่างไรก็ตาม แพลตฟอร์มกระดานแลกเปลี่ยนคริปโตชี้แจงว่า จะไม่มีการเปิดเผยข้อมูลของลูกค้าแก่กรมสรรพากร ยกเว้นได้รับการยินยอมจากลูกค้าเท่านั้น
ในขณะเดียวกัน รายงานเดือนกันยายนปี 2023 จาก Bangkokpost ระบุว่า เป้าหมายหลักของการเปลี่ยนแปลงกฎหมายภาษีนี้ มุ่งเป้าไปคนที่มีรายได้หรือสินทรัพย์ที่ได้มาจากต่างประเทศ รายงานยังระบุอีกว่า การจัดเก็บภาษีนี้จะมุ่งเป้าไปที่กลุ่มคนหลากหลายในประเทศ รวมถึงกลุ่มประชาชนที่เข้าร่วมกิจกรรมการซื้อขายคริปโตภายในประเทศ
อย่างไรก็ตาม การเก็บภาษีคริปโตนี้ ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับรัฐบาลไทย โดยในเดือนมกราคม ปี 2022 กรมสรรพากรได้ริเริ่มเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 15% จากกำไรที่เกิดจากการซื้อขายคริปโต โดยทั้งคนไทยและชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศเกิน 180 วันต่อปี จะต้องเสียภาษีนี้
ที่มา : Coin Edition