<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ChatGPT คาด คริปโตตัวใหม่อย่าง Bitbot มีโอกาสที่ราคาจะพุ่งขึ้นไปกว่า 100 เท่าได้ภายในปี 2025

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้เริ่มกลายเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยความสามารถทำได้ตั้งแต่การสร้างโมเดลการเรียนรู้ จนถึงวิเคราะห์โปรเจกต์คริปโตเคอร์เรนซีหน้าใหม่ที่จะเป็นเครื่องมือให้กับนักลงทุน

โดยเฉพาะกับ ChatGPT ของ Open AI ที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุนจำนวนมาก ที่ใช้ในการหาข้อมูลเชิงลึก, การคาดการณ์ และการวิเคราะห์โปรเจกต์ต่างๆ รวมถึงมันยังถูกนำมาใช้สร้างแพลตฟอร์มคริปโต AI สุดล้ำสมัยอีกด้วย

ซึ่งหนึ่งคริปโตเคอร์เรนซีที่ ChatGPT เชื่อว่าจะสร้างประสิทธิภาพได้อย่างยอดเยี่ยมในปีนี้ และมีโอกาสที่ราคาจะเพิ่มขึ้นกว่า 100 เท่า ในช่วงปี 2025 นั้น ก็คือ Bitbot, บอทเทรดบน Telegram แบบ Non-custodial ตัวแรกของโลก ที่มาพร้อมระบบการรักษาความปลอดภัยระดับสูง

ที่หลังจากเปิดตัวในรอบ Presale ด้วยราคาเพียง 0.01 ดอลลาร์ไปเมื่อวันที่ 17 มกราคม ก็ได้ทำให้มันกลายเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในทันที โดยหลังจากที่ได้เปิดรอบ Presale ไป ก็ได้ทำให้ Bitbot มีผู้ติดตามสูงมากกว่า 1 แสนคนบน X และผู้ติดตามมากกว่ามากกว่า 6พันคนบน Telegram, จนสามารถระดมทุนไปได้แล้ว 415,000 ดอลลาร์ ในเวลาเพียง 20 วันเท่านั้น

และนั้นคือเหตุผลว่าทำไม ChatGPT จึงเชื่อว่า Bitbot อาจสามารถสร้างผลตอบแทนได้มากกว่า 100 เท่าในปี 2025 ได้ รวมถึงปัจจัยที่คาดว่าจะเกิดตลาดกระทิงหลังจากเกิดเหตุการณ์ Halving ของ Bitcoin ในปีนี้

Bitbot คืออะไร?

Bitbot คือบอทเทรดคริปโตบน Telegram ที่อยู่ในรูปแบบ Non-custodial ตัวแรกของโลก โดยมันได้เป็นพันธมิตรกับ Knightsafe ผู้ให้บริการ Self-custody สินทรัพย์ดิจิทัลกระจายศูนย์ ที่นอกจากจะเป็นการเน้นย้ำถึงความปลอดภัยของตัวโครงการแล้ว Bitbot ยังสามารถทำการโต้ตอบระหว่างโปรโตคอล DeFi, Telegram และเว็บไซต์ซื้อขายแลกเปลี่ยน ได้อย่างรวดเร็ว

โดยเครื่องมือใหม่ตัวนี้จะสร้างความเปลี่ยนให้กับวงการคริปโต ด้วยการเข้ามาช่วยนักลงทุนรายย่อยที่มักตกอยู่ในเนื้อมือของปลาวาฬและนักลงทุนจากสถาบัน ที่มาพร้อมกับระบบการสมัครใช้งานที่ง่าย และสามารถสร้างกระเป๋าเงินคริปโตฟรีได้สูงสุดถึง 3 Wallet

ฟีเจอร์หลักๆ ของ Bitbot

Bitbot มีสโลแกนหลังคือ “Not your key, Not your coins” โดยมันจะเปิดให้ผู้ใช้สามารถติดต่อกับ Cold wallets ผ่าน Private Key ของตัวเองได้ เพื่อให้ผู้ใช้จะมีสิทธิ์ควบคุมสินทรัพย์ดิจิทัลของตัวเองอย่างเต็มรูปแบบ โดยเงินทุนจะถูกส่งเมื่อการเทรดเสร็จสมบูรณ์เท่านั้น

และด้วยเทคโนโลยี Custodial ขั้นสูงของ Knightsafe ซึ่งเป็นการใช้ Wallet คำนวณจากหลายแหล่งเพื่อแทนที่ Private Key, ทำให้มันมีคีย์หลายตัวถูกแชร์ในระบบระหว่างฝ่ายต่างๆ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีผู้ใดผู้หนึ่งเป็นผู้ถือคีย์ของนักเทรด

นอกจากนี้ผู้ใช้ยังได้รับการป้องกันด้วยฟีเจอร์ Anti-MEV bot ที่จะป้องกันผู้ใช้จากการตกเป็นเป้าหมายของ MEV bots ที่จะทำการปั๊มราคาธุรกรรมและขโมยกำไรของนักเทรดอีกด้วย รวมถึงยังมีฟีเจอร์อย่าง Anti-rug pul ที่จะทำให้แน่ใจว่ามีการปกป้องตัวผู้ใช้และสินทรัพย์ของผู้ใช้จากการถูก Scam

บอทเทรดบน Telegram เป็นอนาคตของคริปโตหรือไม่?

ไม่ว่าจะเป็นการผ่านการทำงานร่วมกัน การปรับขนาด การกระจายศูนย์ หรือการนำ AI มาใช้ประโยชน์ แพลตฟอร์มคริปโตก็มีการวิวัฒนาการไปอย่างรวดเร็วมาโดยตลอด ซึ่งหนึ่งในเทรนที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในวงการชุมชนการเทรดคริปโตก็คือบอทเทรด และมันก็เริ่มกลายเป็นเครื่องมือที่สำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับนักเทรดคริปโต

โดยบอทเทรดจะดำเนินการเทรดโดยอัตโนมัติในตลาดคริปโตต่างๆ ตามค่าหรือกลยุทธ์ที่ผู้ใช้ได้กำหนดไว้ผ่าน Telegram มีจำนวนผู้ใช้สูงถึง 800 ล้านราย และด้วยจำนวนบอทเทรดบน Telegram ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ผู้ใช้จำนวนมากสามารถใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์ม ในการช่วยให้โต้ตอบกับเว็บไซต์ซื้อขายคริปโตขนาดใหญ่ได้โดยง่าย

และแพลตฟอร์มคริปโตเคอร์เรนซีน้องใหม่อย่าง Unibot, Maestro, และ Banana Gun นั้น ได้ทำการเปิดตัวและเข้าสู่วงการบอทเทรด Telegram ที่ได้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา โดยพวกมันมี UX ที่ใช้งานได้ง่าย ซึ่งจะช่วยให้สามารถเข้าถึงกลยุทธ์การเทรดด้วย AI ได้

ChatGPT พูดถูกไหม? ว่า Bitbot จะสามารถสร้างผลตอบแทนกว่า 100 เท่าได้ในปี 2025 ได้?

ChatGPT ได้ทำการคาดการณ์ว่า Bitbot จะสามารถสร้างผลตอบแทนกว่า 100 เท่า ได้ภายในปี 2025, ด้วยกระแสข่าวอนุมัติ Bitcoin ETF และการ Halving ของ Bitcoin (BTC) ที่กำลังจะมาถึง ทำให้มีการคาดการณ์ว่าตลาดกระทิงกำลังจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้

ในขณะที่ CoinDesk ได้ทำการรายงานว่า Unibot ได้สร้างผลตอบแทนมากถึง 200x ในช่วงปีที่แล้วให้กับนักลงทุนที่เข้าลงทุนในช่วงเริ่มต้น โดยราคาโทเค็นได้พุ่งทะลุระดับ $200 และมีมูลค่าตลาดรวมกว่า 200 ล้านดอลลาร์ก่อนที่จะถูกแฮ็ก ซึ่งในปัจจุบัน Unibot ยังมีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ 58 ล้านดอลลาร์เท่านั้น ในขณะที่ Banana Gum ก็มีมูลค่าตลาดสูงถึง 34 ล้านดอลลาร์ แม้จะมีการกล่าวหาว่าผู้พัฒนาอาจทำการ Rug pull ก็ตาม

อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้วงการบอทเทรดบน Telegram ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นเท่านั้น แต่ก็ยังมีปริมาณการซื้อขายมากกว่า 7 พันล้านดอลลาร์ไปแล้ว และด้วยข้อเสนอที่เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัดของ Bitbot ทำให้การคาดการณ์ที่ว่ามันจะสร้างผลตอบแทนได้ถึง 100 เท่านั้นดูเป็นไปได้จริง

ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยชั้นยอด, UX ที่น่าใช้งาน และเครื่องมือการเทรดคริปโตด้วย AI ตัวใหม่ ซึ่งทำให้ Bitbot มีศักภาพมากจนไม่มีใครสามารถหยุดยั้งได้

โดยในตอนนี้การ Presale ของ Bitbot กำลังอยู่ในขั้นที่ 3 ด้วยราคา 0.011 ดอลลาร์ ซึ่งมันถึงเวลาแล้วที่นักลงทุนจะได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของโปรเจกต์ที่น่าตื่นเต้น และก้าวเข้ามาซื้อโทเค็น Bitbot ของคุณวันนี้เลย

ดูข้อมูลเพิ่มเติมและซื้อโทเค็น BITBOT, ได้ที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ

บทความนี้เป็นเพียงการให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโปรเจกต์เหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่เท่านั้น ทางผู้เขียนไม่ได้มีเจตนาในการแนะนำหรือเชิญชวนให้ลงทุนแต่อย่างใด คริปโทเคอร์เรนซี และ โทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

บทความนี้เป็นบทความสปอนเซอร์