ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ากองทุนอย่าง Spot Bitcoin ETF นั้น เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์การลงทุนได้เข้ามาทำลายการลงทุนแบบดั้งเดิมในสหรัฐอเมริกา ด้วยเครื่องมือการลงทุนที่มีเอกลักษณ์พร้อมคุณสมบัติที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
อย่างไรก็ตาม Spot Bitcoin ETF ก็ได้สร้างคำถามใหม่ๆ ให้กับนักลงทุนว่า มันจะมีประสิทธิภาพเหนือกว่า ETF อื่น ๆ โดยเฉพาะ ETF ทองคำ หรือไม่ ซึ่ง Darin Feinstein ผู้ก่อตั้งบริษัทบล็อกเชนหลายแห่งอย่าง Core Scientific และ Blockcap ก็ได้ออกมาตอบข้อสงสัยนี้
โดยในระหว่างที่ Feinstein ให้สัมภาษณ์กับทาง Cointelegraph เธอได้ออกมาเปิดเผยว่า Bitcoin ETF นั้นไม่เหมือนกับ ETF อื่นๆ เพราะ Bitcoin ทำงานในรูปแบบบัญชีแยกประเภทที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลย จนเรียกได้ว่าเป็นระบบบัญชีที่ดีที่สุดที่มนุษยชาติเคยมีมา
“Bitcoin ETF พิสูจน์ผ่านเครือข่าย Bitcoin แล้วว่า Bitcoin ถืออยู่นั้นเป็นการลงทุนที่ปลอดภัยกว่ามากกว่าการลงทุนใน ETF อื่น ๆ เช่น ETF ทองคำ ซึ่งคุณไม่มีทางรู้ได้แบบเรียลไทม์เลยว่า พวกเขาถือทองคำจริงๆ ไหม แม้ว่าจะมีการรับการรับรองแล้วก็ตาม”
เธอชี้ว่า ด้วยความสามารถของเครือข่าย Bitcoin ทำให้เราสามารถติดตามธุรกรรมและที่อยู่ในบัญชีของผู้ให้บริการกองทุนอย่าง Grayscale Bitcoin Trust ETF, iShares Bitcoin Trust ของ BlackRock และอื่น ๆ ได้ในทันที
นอกจากนี้เครือข่าย Bitcoin แตกต่างจากสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆ ด้วยการนำเสนอความโปร่งใสเกี่ยวกับจำนวน Bitcoin ทั้งหมดในการหมุนเวียนและจำนวนเงินที่เหลือที่ยังถูกขุด โดยมีอุปทานทั้งหมดจำกัดอยู่ที่ 21 ล้านเหรียญ คุณลักษณะที่แตกต่างนี้ไม่มีอยู่ในสินค้าโภคภัณฑ์อย่างทองคำนั้นทำได้
“มีการกล่าวกันว่ามีทองคำทางกายภาพมูลค่า 11 ล้านล้านดอลลาร์บนโลกนี้ ในขณะที่ผู้สนับสนุน Bitcoin ออกมาโต้แย้งว่าทองคำของรัฐบาลกลางทั้งหมดไม่ได้รับการตรวจสอบโดยสาธารณะมากกว่า 70 ปี แล้ว”
“การลงทุนที่ตรวจสอบด้วยตนเอง รับรองความถูกต้องด้วยตนเอง พิสูจน์ปริมาณสำรอง และเปิดเผยต่อสาธารณะได้ตลอด 24 ชั่วโมงไม่เคยมีมาก่อนจนกระทั่ง Bitcoin ETF มาถึง”
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าเครือข่าย Bitcoin จะให้ความโปร่งใสที่สูง แต่ก็ได้มีผู้สังเกตการณ์ในอุตสาหกรรมบางรายกังวลว่า Bitcoin ETF อาจไม่ได้มี Bitcoin หนุนหลังอยู่จริง
ทว่านักวิเคราะห์จาก Bloomberg ETF อย่าง Eric Balchunas ก็ได้ออกมาแสดงความมั่นใจว่าการถือครอง Bitcoin นั้นเป็น “ผลประโยชน์สูงสุด” ของผู้ออก ETF เพื่อที่จะทำให้มันมีพื้นฐานในระดับเดียวกันกับ ETF ทองคำที่มีกายภาพ
ที่มา: CoinTelegraph