ล่าสุดบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Google ได้ประกาศรีแบรนด์ AI chatbot ตัวเก่งของบริษัทอย่าง Bard เป็น Gemini ซึ่งจะมาพร้อมกับแอปพลิเคชันที่เปิดให้ใช้งานได้ฟรี รวมไปถึงเวอร์ชันเสียเงินในประเทศสหรัฐอเมริกา
เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ Sissie Hsiao รองประธานและผู้จัดการทั่วไปของ Google Assistant และ Bard ประกาศว่าแชทบอท AI อายุ 11 เดือนของบริษัทได้เปลี่ยนมาใช้ชื่อ Gemini ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับโมเดล AI ภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ที่มีรากฐานมาจาก Ultra 1.0.
Google อ้างว่า AI ของตนนั้นมีความสามารถที่สูงมาก สามารถประมวลผล และทำงานที่ซับซ้อนได้ เช่นการเขียนโค้ด การคิดด้วยตรรกะ รวมไปถึงสามารถใช้ร่วมกับงานครีเอทีฟ
ทั้งนี้ AI Gemini จะแบ่งออกได้เป็นหลายเวอร์ชันทั้งแบบฟรี และเสียเงิน โดยเวอร์ชันที่เสียเงินจะถูกเรียกว่า Gemini Advanced ซึ่งจะมีการตอบกลับที่แม่นยำกว่า ละเอียดกว่า สามารถใช้งานในเรื่องที่ซับซ้อนได้กว่า รวมไปถึงสามารถปะติดปะต่อบทสนทนาที่เคยป้อนเข้าไปด้วย ทำให้มันสามารถใช้ในการระดมความคิดค้นหาไอเดีย หรือ นำไปทำเป็นติวเตอร์ส่วนตัวก็สามารถทำได้
ปัจจุบัน Gemini Advanced เปิดให้บริการแล้วผ่านการ subscribe Google One AI โดยเสนอราคาอยู่ที่ 20 ดอลลาร์ ต่อเดือน และในอนาคตจะมีการนำมาผนวกการใช้งานเข้ากับบริการอื่น ๆ ของ google เช่น Gmail, Docs, Sheets และ Slides.
ในฝั่งของตัวแอปพลิเคชัน Google ระบุว่า แอป Gemini จะเปิดให้บริการทั้งฝั่ง Android และ iOS ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ เริ่มต้นเปิดให้ดาวน์โหลดเฉพาะที่สหรัฐฯ ก่อนเป็นลำดับแรก และจะมีการเปิดให้บริการในประเทศอื่นเพิ่มเติมในอนาคตพร้อมรองรับภาษาท้องถื่นนั้น ๆ ด้วย ยิ่งไปกว่านั้น AI ในเวอร์ชันมือถือนี้ยังสามารถสร้างภาพตามคำสั่งได้ รวมไปถึง สั่งการเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่เป็น smart devices ได้อีกด้วย ซึ่ง Google เองได้ตั้งเป้าไว้ว่าจะทำให้ Gemini เป็นผู้ช่วยเหลือส่วนตัวในชีวิตประจำวัน โดยในขณะนี้ทีมพัฒนากำลังทำงานร่วมกับหน่วยงานกำกับดูแลในประเทศต่าง ๆ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าทางบริษัทจะสามารถขยายการใช้งานเทคโนโลยีใหม่นี้ได้ภายใต้กฎหมายของรัฐบาล
- ที่มา : Cointelegraph
- ภาพ : The Keyword
