ในช่วงกลางดึกเมื่อวานราคาของ Bitcoin ได้ร่วงดิ่งลงอย่างรุนแรง ทำเอานักลงทุนหลายคนต้องโศกเศร้าเสียใจกันไปตาม ๆ กัน เพราะอีกนิดเดียว Bitcoin ก็จะสามารถทำลายสถิติ ATH ได้แล้ว แต่แล้วจู่ ๆ ก็เกิดเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบให้ Bitcoin ร่วงลงสูงสุดถึง 10,000 ดอลลาร์ จาก $68,000 มายัง $58,000 ทั้งนี้นักลงทุนอาจสงสัยว่าเพราะอะไรถึงทำให้ Bitcoin ร่วงลดลงได้ถึงขนาดนี้ ดังนั้นในบทความนี้ทางสยามบล็อกเชนจะพาทุกท่านมาหาคำตอบถึง “3 สาเหตุที่ทำให้ราคาของ Bitcoin ร่วงดิ่งทะลุ 58,000 ดอลลาร์อย่างรุนแรง”
1. แรงเทขายจากนักขุด
สำหรับสาเหตุประการแรกคาดการณ์ว่าน่าจะผลมาจากแรงเทขายของนักขุดรุ่นเก๋า ซึ่งตามที่สยามบล็อกเชนได้รายงานไปก่อนหน้านี้ จะสังเกตเห็นได้ว่า กระดานเทรดของ Binance มีการตั้งออเดอร์ขาย BTC ในระดับราคา 69,000 ดอลลาร์ อยู่เป็นจำนวนมากถึง 300 BTC คิดเป็นมูลค่ากว่า 20 ล้านดอลลาร์ ด้วยแรงเทขายหนักหน่วงขนาดนี้ย่อมทำให้ราคามีการปรับลดลง
ขณะเดียวกันข้อมูลจาก cryptoquant ยืนยันว่าพบเห็นเจ้ามือบางรายเคลื่อนย้าย Bitcoin ไปยัง Coinbase เป็นจำนวน 1,000 BTC ซึ่งสามารถคิดเป็นมูลค่าได้มากกว่า 69 ล้านดอลลาร์
2. ราคาทองคำพุ่งแตะ All Time High
ประการที่สองคงจะหนีไม่พ้นการที่ไม่นานมานี้ราคาทองคำพุ่งทำสถิติ ATH ใหม่ หลังจากที่ราคาทองคำมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงขึ้นเรื่อย ๆ อันเป็นผลมาจากภาวะสงครามต่อเนื่องของบางประเทศ ประกอบกับความหวาดกลัวภาวะเงินเฟ้อ ที่กำลังก่อขึ้นทั่วทั้งโลก ส่งผลให้ความต้องการทองคำยิ่งทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นไปอีก
ในด้านความเกี่ยวข้องกับตลาดคริปโตนั้นเราจะเห็นได้ว่า นักลงทุนอาจมีความคิดที่จะมองหาสินทรัพย์ทางเลือกอื่นในการลงทุน หรือ กระจายความเสี่ยง เนื่องจาก “ทองคำ” นั้นเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าในตัวเองและไม่ค่อยมีความเสี่ยงเมื่อเก็บเอาไว้ ทำให้มีความน่าสนใจกว่า Bitcoin ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงเป็นอย่างมากโดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ที่ราคาพุ่งขึ้นสูงอย่างผิดปกติ จนหลายคนเกิดความกังวลว่าเมื่อไรจะมีการปรับฐานราคา
3. ความร้อนแรงจากกระแสเก็งกำไรของเหรียญมีม
ประการสุดท้ายคือ กระแสการเก็งกำไรของเหรียญมีม ที่ในปัจจุบันตลาดเหรียญมีมมีการเติบโตขึ้นเป็นอย่างมาก เหล่าเหรียญสัตว์น้อยทั้งแมวทั้งหมาหรือน้องกบ ก็ต่างพุ่งสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จนสามารถดึงดูดความสนใจของนักลงทุนบางส่วนไปได้ส่งผลให้นักลงทุนเลือกที่จะยอมเสี่ยงทำกำไรหลายเด้งไปกับเหรียญมีมที่มีราคาถูกกว่า ดีกว่าที่จะมาลุ้นกับ Bitcoin ว่าจะร่วงไม่ร่วง
อย่างไรก็ตามการที่ตลาดเหรียญมีมนั้นมีการเติบโตที่ร้อนแรงจนมากเกินไปเป็นเรื่องที่น่ากังวลเป็นอย่างมากและควรที่จะต้องชะลอตัวลงไม่เช่นนั้นอาจจะส่งผลเสียให้กับตลาดคริปโตในระยะยาว
จากสาเหตุที่ได้กล่าวมาข้างต้นนั้นสรุปได้ว่า ขณะนี้มีนักขุดนำเหรียญออกมาเทขาย ในขณะที่นักลงทุนเปลี่ยนความสนใจไปยังทองคำ และเหรียญมีมจึงส่งผลให้ราคาของ Bitcoin นั้นปรับตัวลดลง ซึ่งการย่อของราคา Bitcoin ในครั้งนี้อาจเป็นการย่อที่ใช้เวลาไม่นานนักเนื่องจากหลายฝ่ายเคยได้มองว่า Bitcoin จะสามารถทำราคาทะลุ 69,000 ได้ในเร็ว ๆ นี้ เพียงแต่จะเกิดขึ้นในช่วงก่อนหรือหลังการ Halving ก็ต้องมาติดตามกันต่อไป
คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้