หลังจากที่ราคา Bitcoin ได้ร่วงอย่างรุนแรงไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ก็ได้สร้างความเสียหายให้กับนักลงทุนในตลาดจำนวนมาก อย่างไรก็ตามข้อมูลจาก BitcoinTreasuries เผยว่า ในตอนนี้รัฐบาลเอลซัลวาดอร์สามารถทำกำไรจาก Bitcoin ไปมากกว่า 50 ล้านดอลลาร์
โดย Bitcoin ได้ปรากฏตัวครั้งแรกในรูปแบบการชำระเงินตามกฎหมายของประกาศเอลซัลวาดอร์ในปี 2022 ทว่าตั้งแต่นั้นมา ทรัพย์สินของประเทศก็ลดลงอย่างต่อเนื่องจากตลาดหมีคริปโตที่กินระยะเวลามาอย่างยาวนาน
อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดี Nayib Bukele กลับไม่ยอมแพ้ และได้ออกมาประกาศว่ารัฐบาลจะเริ่มซื้อ 1 Bitcoin ในทุกๆ วัน จนทำให้ในตอนนี้รัฐบาลได้ถือครองเหรียญรวมอยู่ที่ประมาณ 2,380 BTC หรือประมาณ 158.5 ล้านดอลลาร์ โดยมีราคาเฉลี่ยต่อเหรียญที่ 44,300 ดอลลาร์
ทว่าหลังจากที่ราคา Bitcoin ได้ขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ตลอดกาลไปเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2024 ส่งผลให้ Bitcoin ที่เอลซัลวาดอร์ถืออยู่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นมาแตะ 164.7 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง (unrealized profits) มากถึง 53%
ซึ่งหลังจากที่ Bukele ได้รับการเลือกอีกครั้งเมื่อเดือนที่ผ่านมา ตัวเขาก็ได้ออกมาแสดงความเห็นผ่านแพลตฟอร์ม X (ชื่อเดิม Twitter) โดยได้วิพากษ์วิจารณ์แนวทางของสื่อกระแสหลักที่มีต่อนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล
“เมื่อราคาตลาดของ Bitcoin ต่ำ พวกเขาเขียนบทความนับพันเกี่ยวกับการสูญเสียที่เราคาดไว้แล้ว และในตอนนี้ราคาตลาดของ Bitcoin สูงขึ้น หากเราขาย เราจะทำกำไรได้มากกว่า 40% (เพียงจากการซื้อในตลาด) ซึ่งแหล่งที่มาของ Bitcoin ทั้งหมดในตอนนี้มาจากโครงการสัญชาติของเรา”
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าประเทศได้รับความสนใจจาก Bitcoin เป็นจำนวนมาก แต่เอลซัลวาดอร์ยังคงเป็นหมาป่าเดียวดายในหมู่รัฐต่างๆ ที่ใช้ “มาตรฐาน Bitcoin” แม้ว่าจะมีข่าวลือว่ารัฐในอเมริกาใต้และที่อื่น ๆ จะหันมาใช้ มาตรฐาน Bitcoin แต่ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด
ที่มา: Cointelegraph