<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Fetch.AI เขย่าวงการ AI! เปิดตัว “Fetch Compute” ดันราคา FET พุ่งขึ้นกว่า 15%!

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Fetch.AI (FET) โชว์ฟอร์มโดดเด่นในตลาดคริปโตวันนี้ โดยพุ่งขึ้นถึง 17% ภายใน 24 ชั่วโมง นับเป็นการพุ่งทะลุระดับราคา $2 เป็นครั้งแรก ส่งผลให้เหรียญขึ้นแท่นสู่ Top 3 เหรียญที่ร้อนแรงที่สุดประจำวัน การพุ่งทะยานครั้งนี้ส่งผลให้ Fetch.AI ขึ้นมาอยู่อันดับที่ 64 ในแง่ของมูลค่าตลาด สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนและความคาดหวังต่อเทคโนโลยีและศักยภาพในอนาคตของ Fetch.AI

ทำไมราคา Fetch.AI ถึงขึ้น ?

เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2024 ราคาที่พุ่งสูงขึ้นของ FET นี้เป็นผลมาจากข่าวประกาศสำคัญโดย Fetch.AI Foundation ซึ่งจุดประกายความสนใจให้กับนักลงทุน โดยได้เปิดตัว “Fetch Compute” และได้รับเงินลงทุนมูลค่า 100 ล้านดอลลาร์เพื่อเป้าหมายที่จะเพิ่มขีดความสามารถในการพัฒนาเศรษฐกิจ AI

Fetch.AI Foundation เปิดตัวโครงการ Fetch Compute มุ่งเน้นการนำเทคโนโลยี  GPU รุ่นล่าสุดจาก Nvidia อย่าง H200, H100 และ A100 มาปรับใช้ภายในระบบนิเวศน์ของ Fetch.AI โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนโดยกองทุน Fetch Ecosystem Fund และมีเป้าหมายในการยกระดับศักยภาพของนักพัฒนาและผู้ใช้งาน ด้วยการมอบพลังประมวลผลอันทรงพลังในการสร้างสรรค์และพัฒนาโมเดลและโซลูชันที่ซับซ้อน โครงการนี้หวังจะเป็นการแก้ไขปัญหาการขาดแคลน GPU ที่รุนแรงในปัจจุบัน รวมถึงยกระดับมาตรฐานใหม่ให้กับชุมชนนักพัฒนาทั่วโลก

นอกจากนี้ยังมีการประกาศ โดยตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคม 2024 เป็นต้นไป ผู้ใช้ที่ Staking FET ซึ่งเป็น native coin ของ Fetch.AI จะได้รับรางวัลเป็น Fetch Compute Credits ซึ่งเครดิตเหล่านี้สามารถใช้เพื่อเข้าถึงพลังการประมวลผลบนเครือข่าย Fetch Compute ซึ่งเป็นการสร้างแรงจูงใจต่อผู้ถือโทเค็น FET และส่งเสริมระบบเศรษฐกิจของเหรียญและเพื่อการพัฒนาที่มั่นคง

Humayun Sheikh–CEO ของ Fetch.ai กล่าวว่า “Fetch Compute ไม่ได้เป็นแค่การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานเท่านั้น แต่ยังเป็นการลงทุนในอนาคตของ AI และเป็นระบบนิเวศของนักพัฒนานวัตกรรมด้วยแพลตฟอร์มของเรา”

การขยายเชิงกลยุทธ์นี้ไม่เพียงแต่เพิ่มอรรถประโยชน์ของโทเค็น FET เท่านั้น แต่ยังตอกย้ำความสามารถด้านโครงสร้างพื้นฐานของ Fetch.AI อีกด้วย แพลตฟอร์ม DeltaV ใช้ประโยชน์จากโมเดลภาษา (LLM) และ AI Agent โดยมีเป้าหมายที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าถึงได้สะดวกมากขึ้น 

-ที่มาภาพ:publish0x

-ที่มาข่าว:newsbtc