ผู้ใช้ทวิตเตอร์ “DogecoinDesigner” ซึ่งดูเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของทีม DOGE และอาจจะเป็นทีม X ด้วย ได้โพสต์ข้อความเตือนความจำเกี่ยวกับเหตุการณ์สำคัญของกองทัพ Dogecoin
โดยเขาได้ทวีตว่า เมื่อปีที่แล้ว ช่วงเทศกาลอีสเตอร์ ทวิตเตอร์ได้เปลี่ยนโลโก้จากนกสีฟ้าอันเป็นเอกลักษณ์ ไปเป็นสุนัขมาสคอตของ Dogecoin ทำให้ราคา DOGE พุ่งสูงขึ้น เนื่องจากชุมชนคาดหวังว่าจะเป็นแบบนั้นไปตลอด และ DOGE จะถูกนำไปใช้สำหรับการชำระเงินภายในแพลตฟอร์ม แต่เพียงหนึ่งสัปดาห์ต่อมา นกสีฟ้านั้นก็กลับมาอยู่ที่เดิม ซึ่งนั่นเป็นช่วงเวลานานก่อนที่แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียนี้จะเปลี่ยนโลโก้เป็นแบบขาวดำของ X
รายงานโดยบริษัทรวบรวมข้อมูล on-chain อย่าง Santiment ในช่วงเวลานั้น ชี้ว่า เจ้ามือในตลาดสกุลเงินดิจิทัลที่สนิทกับ Elon Musk ได้ใช้โอกาสนี้ในการซื้อ Dogecoin เพิ่มเติม ในขณะเดียวกัน เจ้ามืออีกหลายคนก็ได้ใช้ประโยชน์จากราคา DOGE ที่พุ่งสูงขึ้นถึง 33% และขาย DOGE ที่พวกเขามีอยู่ในกระเป๋าเงินไป สกุลเงินดิจิทัล DOGE แยกตัวออกจากตลาดสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ ในช่วงสั้นๆ ด้วยมูลค่าตลาดที่พุ่งสูงขึ้นกว่า 3 พันล้านดอลลาร์ ไปแตะที่ 1.33 หมื่นล้านดอลลาร์ ตามข้อมูลของ CoinMarketCap
ในวันนี้ ขณะที่ผู้ใช้ “DogecoinDesigner” ที่กล่าวถึงเหตุการณ์ข้างต้น ทวีตข้อความเตือนความจำเกี่ยวกับเหตุการณ์อันน่าจดจำนั้น ผู้คนบางส่วนในช่องตอบกลับต่างก็สงสัยว่า จะเกิดขึ้นอีกครั้งในปีนี้หรือไม่
แพลตฟอร์ม X ใกล้เปิดตัวระบบการชำระเงิน
เมื่อไม่นานมานี้ แพลตฟอร์ม X ของ Elon Musk ได้รับใบอนุญาตสำหรับการดำเนินการและประมวลผลการชำระเงินในอีก 3 รัฐของสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 20 มีนาคม X ได้รับใบอนุญาตที่อนุมัติในรัฐอ Oregon, Illinois และ New Mexico
ซึ่งชุมชน Dogecoin ยังคงมีความหวังว่า ในฐานะที่เป็นแฟนและผู้ถือครอง Dogecoin ทาง Elon Musk จะทำการนำ DOGE เป็นหนึ่งในตัวเลือกการชำระเงินบนแพลตฟอร์ม X อย่างแน่นอน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผู้สนับสนุน Dogecoin ที่ซึ่งรู้จักกันในชื่อ “Mishaboar” บน X ได้แบ่งปันความคาดหวังของเขาว่า เนื่องจาก Musk ยังคงได้รับใบอนุญาตใหม่ๆ การชำระเงินด้วย DOGE อาจจะยังไม่ถูกนำเข้ามาจนกว่าจะถึงปีหน้า
MishaBoar กล่าวว่าแพลตฟอร์มออนไลน์ยักษ์ใหญ่ที่เคยต่อต้านสกุลเงินดิจิทัล ตอนนี้ก็รองรับการชำระเงินประเภทนี้แล้ว เช่น PayPal ดังนั้นเขาจึงเชื่อว่า การที่ X จะนำการชำระเงินด้วย DOGE มาใช้นั้นมันเป็นเพียงเรื่องของเวลา
ที่มา: u.today