อย่างที่เราทราบกันดีว่าเงิน Fiat นั้นก็คือเงินที่ออกโดยรัฐบาลซึ่งจุดสำคัญที่กลายมาเป็นประเด็นสำคัญนั้นก็คือเงินเหล่านั้นสามารถพิมพ์เพิ่มได้ไม่อั้น และเรื่องของเงินเฟ้อ
Bitcoin เป็นสิ่งที่หลายคนมองว่าเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อและด้วยเป้าหมายของ Bitcoin ที่ถูกสร้างมาเพื่อการกระจายอำนาจและไร้ซึ่งตัวกลาง ทำให้สินทรัพย์ดิจิทัลตัวนี้เริ่มเป็นที่ยอมรับมากขึ้นในปัจจุบัน
ทั้งนี้เพื่อให้เข้าใจมากขึ้น หนังสือ “THE BITCOIN STANDARD” ที่เขียนโดย Saifedean Ammous ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 2018 และถูกนำมาแปลเป็นภาษาไทยโดย อ.พิริยะ สัมพันธารักษ์ ก็เป็นหนังสือหนึ่งเล่มที่ตีแผ่ความเข้าใจของ Bitcoin และ ระบบการเงินดั้งเดิม โดยมุ่งเน้นไปที่คุณสมบัติเฉพาะของ Bitcoin ที่ทำให้มันแตกต่างจากระบบการเงินแบบดั้งเดิมอย่างไร
แต่ทว่า ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ที่ครั้งหนึ่งเคยออกมาวิจารณ์ Bitcoin ว่า “Bitcoin ไม่มีมูลค่าในตนเอง ไม่มีอะไรมารองรับ เป็นเพียงทรัพย์สินที่ซื้อมาไว้เพื่อเก็งกำไรเพียงเท่านั้น”
รวมถึงประเด็นเรื่องของการขุด Bitcoin ที่กล่าวว่าถูกออกแบบมาเพื่อคนรวยเท่าเนื่องจากทรัพยากรที่ต้องใช้อย่างมากรวมถึงต้นทุนต่าง ๆ นอกจากนี้ ดร.โสภณ กล่าวอีกว่า Bitcoin มีราคาที่ค่อนแกว่งไปแกว่งมา เชื่อถือไม่ได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตามล่าสุด ดร.โสภณ ได้ออกมาโต้แย้งหนังสือ “THE BITCOIN STANDARD” โดย ดร.โสภณ ได้พุ่งเป้าไปที่ประเด็น ‘เงินเฟ้อ’ ที่ในหนังสือพูดถึงว่า
‘เงินเฟ้อทำให้เงินเล็กลง ประชาชนมีอำนาจน้อยลง’ ซึ่ง ดร.โสภณ ตั้งคำถามว่านี่มันคือเรื่องจริงหรือ?
ซึ่ง ดร.โสภณ ได้กล่าวว่าเงินเฟ้อนั้นมีมาตั้งแต่สมัยอยุธยาแล้ว และบางประเทศก็เผชิญกับเงินเฟ้อหนักมาก ๆ แต่นั่นก็เป็นเพียงชั่วคราวและก็เกิดเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้น ในส่วนประเทศไทยของเราเงินเฟ้อก็อยู่ในระดับต่ำมาตลอด
“การจะมาอ้างว่า Bitcoin ดีกว่าไม่เห็นด้วย เพราะราคา Bitcoin เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แต่ก่อน Bitcoin ถูกตอนนี้แพง ในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา Bitcoin ราคาเพิ่ม 240% ถ้าคิดเป็นปี พอๆ กับเงินกู้นอกระบบร้อยละ 20 ต่อเดือน แบบนี้อันตรายกว่าเยอะมาก”
พร้อมยังกล่าวต่ออีกว่า “พวก Bitcoin พยายามบอกให้ซื้อเก็บไว้จะได้เป็นทุนในระยะยาว ที่เราซื้อเก็บไว้ในวันนี้เนี่ย เพื่อไปซื้อจากพวกที่เก็บไว้นั่นแหละครับ เราเลยเสียค่าโง่และก็ให้คนอื่นที่โลภปล่อยขายไป ได้ประโยชน์เดี๋ยวมันก็เทมาใหม่ราคาก็ตกไปอีก แมงเม่าบินเข้ากองไฟครับ”
โดยในท้ายคลิป ดร.โสภณ ยังคงไม่เชื่อมั่นในความโปร่งใสของ Bitcoin เนื่องจากไม่สามารถที่จะทราบผู้ซื้อ ผู้ขาย ผู้รับ หรือผู้ส่งได้มีเพียงรหัสที่อยู่เท่านั้น
“โปร่งใสเป็นความเท็จอีกข้อหนึ่งนะครับ” ดร.โสภณ กล่าว
ทั้งนี้ ดร.โสภณ ยังกล่าวถึงประเด็นเงินเฟ้อและ GDP ของประเทศด้วย ซึ่งสามารถเข้าไปรับฟังได้ในเฟสบุ๊คส่วนตัวของ ดร.โสภณ
ที่มา: ดร.โสภณ