ในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัล และธุรกิจพลังงานสะอาดกำลังขับเคลื่อนโลก แร่ชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า Rare Earth “แรร์เอิร์ธ” ได้กลายเป็นทรัพยากรล้ำค่า เปรียบเสมือน Bitcoin และ ทองคำในธุรกิจโลกใหม่ ประเทศใดที่ได้ครอบครองแร่แรร์เอิร์ธ มากที่สุด ย่อมหมายถึงการเข้าใกล้กุญแจสำคัญสู่ อำนาจ และความมั่งคั่งของโลกอนาคต
แร่ Rare Earth คืออะไร?
แร่ Rare Earth (แรร์เอิร์ธ) ไม่ได้หายากเพราะชื่อของมันเพียงอย่างเดียว แต่เหตุผลที่มันถูกตั้งชื่อนี้เป็นเพราะแร่ชนิดนี้ยากต่อการทำเหมืองเพื่อขุดและสกัดมันขึ้นมา เนื่องจาก แร่ Rare Earth มักจะไม่อยู่รวมกลุ่มในที่ ๆ เดียวกันเหมือนแร่ชนิดอื่น ทำให้มันมีค่าใช้จ่ายในการขุดแร่ มากกว่าการขุดทองคำเสียอีก
แรร์เอิร์ธ เป็นกลุ่มธาตุโลหะ 17 ชนิดที่มีคุณสมบัติทางเคมีและฟิสิกส์ใกล้เคียงกัน พบได้ในปริมาณน้อยกระจายตัวอยู่ทั่วโลก แร่เหล่านี้มีความสำคัญในอุตสาหกรรมการผลิตของโลกยุคใหม่ เช่น:
- อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์: แรร์เอิร์ธถูกใช้ในสมาร์ทโฟน และคอมพิวเตอร์
- พลังงานสะอาด: แรร์เอิร์ธเป็นส่วนประกอบสำคัญในแบตเตอรี่ Lithium Ion ที่ใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าและระบบพลังงานแสงอาทิตย์
- ยานยนต์: แรร์เอิร์ธถูกใช้ในมอเตอร์ไฟฟ้า แม่เหล็ก และตัวเร่งไอเสีย
- อุตสาหกรรมอื่นๆ: แรร์เอิร์ธยังใช้ในอุตสาหกรรมการแพทย์ อุตสาหกรรมแก้ว และอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ
ประเทศไหนครอบครอง แร่ Rare Earth ไว้มากที่สุด?
อ้างอิงตามข้อมูลของเว็บไซต์ฐานเศรษฐกิจ ในปี 2566 กำลังการผลิตแรร์เอิร์ธทั่วโลกต่อปีอยู่ที่ประมาณ 265,000 เมตริกตัน โดยจีนเป็นผู้ผลิตและส่งออกแรร์เอิร์ธรายใหญ่ที่สุดของโลก คิดเป็นสัดส่วนกว่า 60% ของการผลิตทั้งหมด
ส่วนประเทศอื่น ๆ ที่มีการผลิตแรร์เอิร์ธที่สำคัญ ได้แก่ ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา เมียนมา มาดากัสการ์ อินเดีย รัสเซีย ไทย และเวียดนาม
แบ่งออกเป็น จีน: 160,000 เมตริกตัน , สหรัฐอเมริกา: 43,000 เมตริกตัน , ออสเตรเลีย: 18,000 เมตริกตัน , เมียนมา: 3,000 เมตริกตัน , มาดากัสการ์: 8,000 เมตริกตัน , อินเดีย: 3,000 เมตริกตัน , รัสเซีย: 2,700 เมตริกตัน , ไทย: 2,000 เมตริกตัน ,เวียดนาม: 4,300 เมตริกตัน
การครอบครอง แร่ Rare Earth มีความสำคัญอย่างไร?
สินค้าอิเล็กทรอนิกส์มากกว่า 90% ทั่วโลกจำเป็นต้องใช้แร่ 1 ใน 17 ของ RareEarth สำหรับกระบวนการผลิต ซึ่งเหตุผลนี้ทำให้ประเทศใดที่มีแร่ดังกล่าวอยู่ในมือจะส่งผลให้ประเทศเหล่านั้นมีอำนาจการเจรจาต่อรองระหว่างประเทศต่างๆ รวมไปถึงการทำให้ประเทศของตนมั่งคั่ง เนื่องจากแรร์เอิร์ธเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงอย่างมาก
ในยุคปัจจุบัน ที่ทั่วโลกต่างแข่งขันกันในเรื่องของเทคโนโลยี ทำให้ประเทศที่มี RareEarth อยู่ในการครอบครอง ทุกประเทศจะต้องเอาเงินมาวางกองตรงหน้า เพื่อขอซื้อแร่ RareEarth จากประเทศที่ครอบครองแร่เหล่านี้ ซึ่งอาจส่งผลให้ประเทศใดก็ตามที่สามารถเพิ่มปริมาณการครอบครองแร่เหล่านี้ให้มากขึ้นได้ อาจส่งผลต่อสถานะการเป็นมหาอำนาจของโลกในอนาคตอันใกล้อย่างแน่นอน