<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

CBDC จีนแป๊ก? พนักงานชาวจีนแห่แลกคืนเงินค่าจ้าง ‘หยวนดิจิทัล’ ไปเป็นเงินสด 

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

อ้างอิงจากรายงานของสำนักงาน South China Morning Post ระบุว่าขณะนี้โปรเจกต์ CBDC (สกุลเงินดิจิทัล) ของสาธารณรัฐประชาชนจีน กำลังเผชิญกับปัญหาใหญ่ หลังพนักงานที่เข้าร่วมโครงการ (ส่วนใหญ่เป็นพนักงานรัฐ) ซึ่งได้รับเงินค่าจ้างเป็น e-CNY หรือ ดิจิทัลหยวนนั้นตัดสินใจไม่เลือกถือเงินดังกล่าว แต่รีบทำการแปลงเงินออกมาเป็นเงินสดทันที

Sammy Lin พนักงานบัญชีจากธนาคารแห่งหนึ่งระบุว่า ตัวของเธอไม่ต้องการจะเก็บเงินไว้บนแอป e-CNY เพราะว่าไม่มีดอกเบี้ยใด ๆ ทำให้ไม่มีประโยชน์ในการเก็บเอาไว้เฉย ๆ รวมถึงยังคงมีสถานที่ หรือผู้ให้บริการรับเงินหยวนดิจิทัลที่ยังไม่มากเพียงพอทั้งในด้านออนไลน์ และออฟไลน์

ขณะที่ Andrew Wang ข้าราชการรายหนึ่งไม่ได้กังวลกับนวัตกรรมดังกล่าวเพราะมีเงินเดือนเพียงบางส่วนเท่านั้นที่ถูกจ่ายเป็นดิจิทัลหยวน ทว่าภรรยาของเขาที่ได้รับเงินเดือนทั้งหมดเป็นดิจิทัลหยวน กลับนำเงินทั้งหมดไปแลกเป็นเงินสดทันทีที่ได้มาเพราะว่าเงินดิจิทัลนั้นยังไม่เหมาะสมกับการใช้งานจริง โดยเธอระบุว่าเงินดังกล่าวยังไม่สามารถนำมาฝากออมหรือลงทุนต่าง ๆ ได้ในขณะนี้

แม้ว่าสังคมจีนในปัจจุบันจะเริ่มเข้าสู่ช่วง Cashless society หรือสังคมที่ไม่พึ่งพาเงินสด แต่ประชากรจำนวนมากยังคงลังเลที่จะหันมาใช้ ดิจิทัลหยวน เนื่องจากมีความกังวลเรื่องการถูกตรวจสอบ ความปลอดภัย รวมไปถึงการใช้งานที่ยากลำบากอยู่ในขณะนี้

แม้ว่าสถานการณ์จะดูเหมือนย่ำแย่แต่รายงานจากธนาคารกลางของจีนระบุว่า เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา ได้มีเงินมูลค่ากว่า 2.5 แสนล้านดอลลาร์ ถูกใช้เพื่อการทำธุรกรรมอยู่ในระบบเงินหยวนดิจิทัล 

ทางด้านนักวิชาการ Ye Dongyan ระบุว่า รัฐจำเป็นที่จะต้องทุ่มเทกับโปรเจกต์ดังกล่าวมากกว่านี้ และปรับสมดุลระหว่างความเป็นส่วนตัว และความปลอดภัยให้เหมาะสม ถ้าหากยังต้องการให้เงินหยวนดิจิทัลมีการใช้งานทั่วทั้งประเทศ โดยเขาได้ยกตัวอย่างว่าการทำธุรกรรมด้วยเงินสดนั้นไม่มีการบันทึกข้อมูล ซึ่งใครจะเอาไปทำอะไรที่ไหนตอนไหนก็ได้ แต่ไม่ใช่กับดิจิทัลหยวนที่ทุกธุรกรรมที่เกิดขึ้นจะถูกเก็บข้อมูลเอาไว้โดยรัฐบาล ซึ่งข้อมูลดังกล่าวสามารถนำมาใช้ติดตามตัวได้ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ที่รัฐจะต้องจัดการให้ได้ และได้เสนอว่าให้รัฐตามข้อมูลเฉพาะธุรกรรมขนาดใหญ่เท่านั้นและปล่อยการทำธุรกรรมขนาดเล็กไป

อย่างไรก็ตามปัจจุบันโปรเจกต์ดังกล่าวมีอายุมากกว่า 4 ปีแล้ว และรัฐบาลจีนยังคงพยายามอย่างต่อเนื่องที่จะผลักดันให้โปรเจกต์ดังกล่าวประสบความสำเร็จ และเป็นที่ยอมรับกันในระดับสากล

ที่มา : Cointelegraph