ในยุคที่การเทรดคริปโตบน Telegram กำลังได้รับความนิยม เหล่านักลงทุนต่างมองหาเครื่องมือที่เหนือกว่าเพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไร Bitbot บอทเทรด AI แบบ Non-custodial พร้อมแล้วที่จะก้าวเข้ามาเป็นผู้เล่นตัวใหม่ที่พลิกโฉมวงการ!
ด้วยยอดระดมทุนกว่า $3.7 ล้านดอลลาร์ ในช่วง Presale ที่กำลังดำเนินอยู่ Bitbot กำลังกลายเป็นโปรเจกต์ที่น่าจับตามองในวงการคริปโต เมื่อแอปเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปลายปีนี้ Bitbot มีโอกาสสูงที่จะพุ่งขึ้นเป็นหนึ่งในโปรเจกต์ชั้นนำของตลาด ด้วยฟีเจอร์ที่ครบครัน ปลอดภัย และชาญฉลาด Bitbot จึงถูกมองว่าเป็นตัวเลือกการเทรดรูปแบบใหม่ ที่พร้อมจะเข้ามาดิสรัปต์และครองตลาด
ยุครุ่งโรจน์ของบอทเทรด : Bitbot มีบทบาทสำคัญอย่างไรบ้าง?
ในช่วงหลังมานี้ วงการบอทเทรด Telegram ได้มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด มีปริมาณการเทรดเพิ่มขึ้นเกือบถึงห้าเท่า จาก 4.46 พันล้านดอลลาร์ ในช่วงต้นเดือนธันวาคม 2023 ขึ้นไปถึง 21.3 ดอลลาร์ ในปัจจุบัน ซึ่งบอทเหล่านี้มีชื่อเสียงจากการที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงเว็บเทรดคริปโตแบบ Decentralized และเป็นเครื่องมือการเทรดอัตโนมัติขั้นสูงอย่างง่ายดายผ่านแอป Telegram ซึ่งมีจำนวนผู้ใช้งานสะสมมากกว่า 1.5 ล้านราย โดยทำการเทรดไปแล้วมากกว่า 111 ล้านการเทรด และมีจำนวนผู้ใช้งานรายวันอยู่ที่ 60,000 ราย
Bitbot คือ โปรเจกต์ใหม่ล่าสุดในวงการ ซึ่งแตกต่างจากคู่แข่งด้วยสองนวัตกรรมสำคัญอย่าง AI สุดล้ำ และเฟรมเวิร์คแบบ Non-custodial
โทเค็น AI กำลังเป็นหัวข้อที่ร้อนแรง ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ประมาณ 3 หมื่นล้านดอลลาร์ ในขณะเดียวกัน ตามข้อมูลจาก Valuates ระบุว่า บอทเทรดคริปโต AI พร้อมที่จะเติบโตต่อเนื่องสะสมในอัตรา (CAGR) ที่ 37.2% ไปจนถึงปี 2029 ทำให้เห็นได้ชัดว่า Bitbot มีความโดดเด่นอยู่ในแถวหน้าของเทรนด์คริปโตที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วที่สุด
Bitbot ใช้ประโยชน์จากนวัตกรรม AI ล่าสุด โดยมีฟีเจอร์เรือธงอย่าง Gem Scanner ซึ่งเครื่องมือที่ซับซ้อนนี้ จะทำการรวบรวมข้อมูลจากหลายๆ แหล่ง และค้นหาโทเค็นที่กำลังเป็นเทรนด์ จากนั้นมอบคะแนนตามกิจกรรมบนบล็อกเชน และอารมณ์ของตลาดโดยรวม
ข้อมูลอัจฉริยะนี้จะถูกป้อนเข้าสู่ Alpha List โดยตรง ซึ่งเป็นฟีเจอร์สุดพิเศษสำหรับผู้ถือโทเค็น BITBOT โดยโทเค็นแต่ละตัวจะถูกกลั่นมาเป็นข้อมูลที่ใช้งานได้จริง โดยผู้ใช้จะสามารถใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์ Sniping ของ Bitbot เพื่อเข้าลงทุน ก่อนที่โทเค็นจะเป็นที่รู้จักในวงกว้าง
ระบบรักษาความปลอดภัยเกรด A ช่วยให้ Bitbot มีข้อได้เปรียบ
ในขณะที่ผู้ใช้งานบางส่วน ทราบถึงความนิยมของบอทเทรด Telegram แล้ว แต่หลาย ๆ คนก็ยังมีสิ่งที่เป็นห่วง โดยเฉพาะจากการผู้เล่น Maestro, Unibot และ Solareum ได้ทำเงินลงทุนของผู้ใช้งานสูญเสียไปมากกว่า 1.5 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากมีปัญหาเกี่ยวกับการถือครอง Private Key ของนักเทรด
กลยุทธ์ของ Bitbot คือ การร่วมเป็นพันธมิตรกับ KnightSafe ซึ่งเป็นบริการ Self-custody กระจายศูนย์ชั้นนำ เพื่อให้แน่ใจว่า ผู้ใช้งานมีสิทธิ์ควบคุม Private Key ของตัวเองอย่างเต็มรูปแบบ โดยสินทรัพย์จะออกจากกระเป๋า เมื่อการเทรดถูกดำเนินการแล้วเท่านั้น โมเดลรักษาความปลอดภัยนี้ จะเข้ามาสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับบอทเทรด Telegram
นอกจากระบบแบบ Non-custodial แล้วสัญญา Smart contract ของ Bitbot ยังมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวดจากบริษัทออดิทอย่าง Solid Proof นอกจากนั้น จำนวนกว่า 20% จาก Supply ของ Bitbot ยังถูกจัดสรรไว้สำหรับการพัฒนา และจำนวน 14% ถูกจัดสรรไว้สำหรับการตลาด ซึ่งส่วนนี้ได้รับการป้องกัน และทยอยปล่อยออกมาในระยะเวลา 6 เดือน และ 12 เดือน ซึ่งเป็นการลดโอกาสการเกิด Rug pull เนื่องจากมีการล็อคโทเค็นของทีมเป็นระยะเวลา 1 ปี
แนวทางด้านความปลอดภัยนี้ เมื่อรวมเข้ากับเครื่องมือการเทรดด้วย AI ที่ใช้งานได้ง่ายของ Bitbot ถือเป็นสุดยอดคำเชิญให้กับนักเทรดคริปโตหน้าใหม่ ที่จะช่วยทำให้ราคาของโทเค็น BITBOT พุ่งสูงขึ้น เนื่องจาก Bitbot จะเติบโตได้อย่างยอดเยี่ยมในตลาด และสามารถขโมยส่วนแบ่งจากโปรเจกต์เดิม ๆ
Bitbot และนักลงทุนดูจะมีอนาคตที่สดใส
ด้วยความสามารถของ AI ในวงการเทรดที่มีความเก่งกาจขึ้นเรื่อย ๆ และตลาดขาขึ้นที่กำลังจะเกิดขึ้น จะช่วยส่งเสริมราคาคริปโต ในโซลูชัน Non-custodial ของ Bitbot ให้อยู่ในตำแหน่งที่ยอดเยี่ยม พร้อมที่จะดึงดูดผู้ใช้งานได้จำนวนมาก โดยโปรเจกต์นี้มีจำนวนผู้ติดตามบน Twitter แล้วมากกว่า 80,000 และ จำนวนสมาชิกใน Telegram มากกว่า 26,000
นอกจากนั้น โทเค็น BITBOT ยังมีสิทธิประโยชน์ที่น่าตื่นเต้นให้กับผู้ถือครอง ตัวอย่างเช่น มีโปรแกรมการแชร์รายได้ที่สูงถึง 50% สำหรับค่าธรรมเนียมการเทรด และโบนัสการแนะนำเพื่อน 15% ตลอดชีวิต โดยมีโทเค็นที่ถูกจัดสรรไว้สำหรับ Airdrop ซึ่งมีมูลค่าอยู่ที่ 1,000 ดอลลาร์ ที่จะมอบให้กับผู้โชคดีจำนวน 1,000 ราย
นักวิเคราะห์มองว่า ศักยภาพของ BITBOT ในระยะยาวนั้น สดใสเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งมีโอกาสทำราคาได้ใกล้เคียงกับ Banana Gun ที่สามารถทำราคาจากการ Presale ไปจนถึงราคาสูงสุด ที่เพิ่มขึ้นถึง 80 เท่า , มีการคาดการณ์ว่า Bitbot จะทำประสิทธิภาพได้ดียิ่งกว่านั้น โดยเมื่อพิจารณาจากการมีฟีเจอร์ AI ที่เหนือกว่า และการเสริมระบบรักษาความปลอดภัยขั้นสูง
ด้วยอนาคตที่สดใสเช่นนี้ Bitbot อาจกำลังเดินหน้าเข้าสู่เส้นทางที่จะสามารถสร้างผลตอบแทนได้ถึง 100 เท่า ให้กับผู้สนับสนุน ที่เข้าร่วมในระหว่างการ Presale
อย่าพลาดโอกาสการเข้าร่วมการ Presale กับคริปโตที่ดีที่สุดของปี 2024
การ Presale ของ Bitbot กำลังก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว โดยปัจจุบันการ Presale อยู่ในเฟสที่ 14 จากทั้งหมด 15 เฟส โดยปัจจุบันราคาอยู่ที่ 0.0189 ดอลลาร์ ซึ่งราคายังสามารถเพิ่มขึ้นไปได้อีก 5.82% ก่อนที่จะเข้าสู่ราคาสุดท้ายที่ 0.02 ดอลลาร์ ซึ่งโทเค็นกำลังถูกขายออกอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางการคาดการณ์ว่า Bitbot มีโอกาสทำราคาเพิ่มขึ้นได้ถึง 100 เท่า และเอาชนะความสำเร็จของ Banana Gun ได้
เวลาใกล้หมดลงแล้ว นักลงทุนรีบเข้าร่วมตอนนี้ เพื่อคว้าที่นั่งในโปรเจกต์ ที่จะมาเปลี่ยนโลกคริปโต
นักลงทุนสามารถเข้าดูข้อมูลเพิ่มเติม และซื้อโทเค็น BITBOT ได้ที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
บทความนี้เป็นเพียงการให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโปรเจกต์เหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่เท่านั้น ทางผู้เขียนไม่ได้มีเจตนาในการแนะนำหรือเชิญชวนให้ลงทุนแต่อย่างใด คริปโทเคอร์เรนซี และ โทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้