<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ผลสำรวจล่าสุดเผย นักลงทุนสถาบันชาวญี่ปุ่นกว่า 54% สนใจที่จะลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล!

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน บริษัทให้บริการทางการเงิน Nomura Holdings และ Laser Digital ซึ่งเป็นบริษัทด้านสินทรัพย์ดิจิทัล ได้ออกมาเปิดเผยผลสำรวจ “การสำรวจนักลงทุนสถาบันเกี่ยวกับแนวโน้มการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล” โดยพบว่านักลงทุนสถาบันที่สำรวจในญี่ปุ่นมากกว่าครึ่งหนึ่งแสดงความตั้งใจที่จะลงทุนในคริปโต

การศึกษาดังกล่าว เป็นการสอบถามผู้จัดการการลงทุนทั้งหมด 547 ราย ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนสถาบัน สำนักงานครอบครัว และบริษัทบริการสาธารณะ เพื่อเปิดเผยความตั้งใจของผู้จัดการการลงทุนชาวญี่ปุ่นเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล และเน้นย้ำถึงความท้าทายต่างๆ เมื่อพิจารณาการลงทุนในคริปโต

สิ่งที่น่าสนใจคือ จากผู้ตอบแบบสอบถามกว่า 54% แสดงความสนใจที่จะลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลในอีก 3 ปีข้างหน้า โดยผู้จัดการส่วนใหญ่กล่าวว่าพวกเขา “ต้องการลงทุน” หรือ “มีแนวโน้มที่จะลงทุนมากขึ้น”

และเมื่อถามถึงเหตุผล ผู้ตอบแบบสอบถามยอมรับว่าพวกเขาเห็นคริปโตเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการกระจายพอร์ตการลงทุนของพวกเขา โดยผู้ตอบแบบสอบถาม 60% มองว่าสินทรัพย์คริปโตเป็นโอกาสในการกระจายความเสี่ยง

นอกจากนี้ ยังมีเหตุผลอื่นๆ ได้แก่ ความสัมพันธ์กับสินทรัพย์อื่นๆ ที่ต่ำ การป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ ศักยภาพในการคืนทุนที่สูง และตลาดที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง

สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างคือปัจจัยของผู้ที่กำลังลงทุนหรือกำลังพิจารณาลงทุนในคริปโต โดยผลการสำรวจพบว่านักลงทุนส่วนใหญ่สนใจในการพัฒนากองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยนคริปโต (ETF) กองทุนการลงทุน Staking และตัวเลือกการให้กู้ยืม ซึ่งถือเป็นเหตุผลสำคัญในการพิจารณาลงทุนในคริปโต

โดยผู้ตอบแบบสอบถามเกือบครึ่งหนึ่งแสดงความสนใจที่จะลงทุนในโครงการ Web3 ไม่ว่าจะโดยตรงหรือผ่านกองทุนร่วมทุน

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันผู้จัดการการลงทุนยังลังเลที่จะเข้าสู่ตลาดคริปโตด้วยอุปสรรคหลายประการ ไม่ว่าจะเป็น ความเสี่ยงของคู่สัญญา ความผันผวนสูง และข้อกำหนดด้านกฎระเบียบที่เข้มงวดเป็นข้อกังวลของพวกเขา

ซึ่งการแก้ไขพระราชบัญญัติหุ้นส่วนจำกัดที่คาดว่าจะมีขึ้นในอนาคต ที่จะรวมสินทรัพย์ดิจิทัลไว้ในสินทรัพย์ที่หุ้นส่วนจำกัด (LP) และเปิดให้นักลงทุนสามารถเข้าซื้อได้เหมือนหุ้นนั้น คาดว่าจะช่วยอำนวยความสะดวกในการลงทุนคริปโตมากยิ่งขึ้น

ที่มา: Cointelegraph