<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

สหประชาชาติ เลือกกัมพูชา นำร่องทดสอบระบบข้อมูลประจำตัวดิจิทัลบนบล็อกเชน

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ได้ตัดสินใจคัดเลือกประเทศกัมพูชาเป็นตัวแทนในการนำร่องทดสอบเทคโนโลยีใหม่ที่มีชื่อว่า  Universal Trusted Credentials (UTC) ซึ่งเป็นระบบตรวจสอบข้อมูลประจำตัวดิจิทัลบนบล็อกเชน

มูลนิธิ The Dfinity ทีมพัฒนาผู้อยู่เบื้องหลัง Internet Computer บล็อกเชนจะเข้ามามีส่วนรวมในโปรเจกต์ดังกล่าวร่วมกับ UNDP ซึ่งตัวของ Internet Computer blockchain จะทำหน้าที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับการรักษาความปลอดภัยและจัดการข้อมูลประจำตัวดิจิทัลสากล โดยโปรเจกต์เปิดตัวไปเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา และมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และขนาดเล็ก (MSMEs) ในระบบเศรษฐกิจดิจิทัล

เช่นเดียวกับสำนักงานการเงินการธนาคารแห่งสิงคโปร์ และหน่วยงานอื่น ๆ ที่ได้เข้าช่วยเหลือ UNDP ด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม การทดสอบในประเทศกัมพูชานั้นเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปโปรเจกต์ดังกล่าวจะนำไปทดสอบกับอีกหลายสิบประเทศ 

Dominic Williams ผู้ก่อตั้งมูลนิธิ Dfnity กล่าวว่าด้วยการนำเทคโนโลยี Internet Computer blockchain เข้ามาใช้งาน ทำให้ตัวของระบบ UTC ได้รับผลประโยชน์จากข้อมูลการวิจัยและพัฒนาที่ยาวนานนับพันคนต่อปี ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง

ย้อนกลับไปในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าทางสำนักงานการเงินการธนาคารแห่งสิงคโปร์ (MAS) และธนาคารแห่งชาติของกานา ได้นำร่องทดลองใช้ proof-of-concept จากการใช้เทคโนโลยี UTC ได้สำเร็จ ซึ่งจะเป็นการนำ sem-fungible token (SFT) มาใช้งานเพื่อโอนถ่ายใบอนุญาตต่าง ๆ และประวัติการซื้อขาย รวมถึงการยืนยันตัวตนแบบ KYC ทำให้สามารถสร้างระบบข้อมูลประจำตัวดิจิทัลที่ปลอดภัยและเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืนและการเติบโตทางเศรษฐกิจ จากการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีอันล้ำสมัย

Chea Serey ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศกัมพูชา มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการสนับสนุนการชำระเงินข้ามพรมแดนผ่าน “Bakong” ซึ่งเป็นระบบการชำระเงินดิจิทัลของกัมพูชา อีกทั้งก่อนหน้านี้กัมพูชายังได้เซ็นสัญญากับธนาคารเกาหลีใต้สามแห่ง เพื่อช่วยเหลือแรงงานในการส่งเงินกลับบ้าน โดย Serey เน้นย้ำว่าการเคลื่อนไหวนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ในการส่งเสริมการใช้เงินสกุลท้องถิ่นเรียลกัมพูชา (Riel) ในระบบเศรษฐกิจที่ปัจจุบันใช้เงินดอลลาร์สหรัฐในการทำธุรกรรมกว่า 80% 

ทั้งนี้ในปี 2020 ธนาคารแห่งชาติของกัมพูชาได้เปิดตัสแพลตฟอร์ม Bakong ซึ่งเป็น tokenized currency payment system ที่มีความใกล้เคียงกับ CBDC แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันมีความใกล้เคียงกับระบบเงินฝากแบบโทเค็น ที่ใช้โครงสร้างพื้นฐานของธนาคารกลางมากกว่า ซึ่งตัวของแอปจะผูกกับทั้งบัญชีเงินฝากสกุลดอลลาร์ และ เรียล โดยที่ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องเปิดบัญชีธนาคาร ซึ่งแอปดังกล่าวประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยมีผู้ใช้งานสร้าง wallet แล้วนับสิบล้านรายจากประชากรทั้งสิ้น 17 ล้านคน โดยมีการทำธุรกรรมมาแล้วกว่า 7 หมื่นล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่มีการเปิดตัว


ที่มา : Cryptopolitan