ธนาคารขนาดใหญ่ที่สุด 9 แห่งของโลก กำลังยุติข้อพิพาทอันยาวนาน ที่ถูกกล่าวหาว่าร่วมกันสมคบคิด เพื่อผูกขาดตลาดมูลค่า 465.9 ล้านล้านดอลลาร์
ทนายความที่เป็นตัวแทนของนักลงทุน ได้ยื่นฟ้องต่อศาล เพื่อขออนุมัติเบื้องต้นสำหรับข้อตกลงยุติคดีแบบจ่ายเป็นเงินสดมูลค่า 46 ล้านดอลลาร์ ให้แก่ JPMorgan Chase, Bank of America, Goldman Sachs, BNP Paribas, Citigroup, Deutsche Bank, Morgan Stanley, NatWest และ UBS เพื่อยุติคดีต่อต้านการผูกขาดที่ดำเนินมานานถึง 8 ปี
ทนายความในฐานะที่เป็นตัวแทนของกองทุนบำเหน็จบำนาญครูโรงเรียนรัฐบาลประจำชิคาโก , สมาคมเกษียณอายุพนักงานเทศมณฑาลอสแอนเจลิส และนักลงทุนสถาบันอื่น ๆ ทนายความได้กล่าวว่า ธนาคารเหล่านี้ร่วมกันวางแผนมาเป็นระยะเวลายาวนาน เพื่อทำให้ตลาดสวอปอัตราดอกเบี้ย (Interest Rate Swap Market) ยังคงล้าหลังและไม่มีประสิทธิภาพ เพื่อที่จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
สัญญาสวอปอัตราดอกเบี้ย (Interest Rate Swap Market) เป็นตราสารทางการเงินที่อนุญาตให้สองฝ่าย แลกเปลี่ยนกระแสเงินสดดอกเบี้ยซึ่งกันและกันภายใต้ระยะเวลาที่กำหนดในช่วงระยะเวลาหนึ่ง
ฝ่ายโจทก์ยืนยันว่า ตลาดสวอปอัตราดอกเบี้ย มีความพร้อมอย่างชัดเจนสำหรับการซื้อขายที่รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพบนตลาดหลักทรัพย์อิเล็กทรอนิกส์ แต่ธนาคารจำเลยกลับพยายามอย่างยิ่ง ที่จะให้ตลาดนี้ดำเนินการอยู่ในรูปแบบ Over-the-Counter (OTC) ซึ่งล้าสมัย ทำให้พวกเขามีอำนาจในการผูกขาดตลาด
“การปิดกั้นการเข้าสู่ตลาดสวอปอัตราดอกเบี้ย (IRS) ของตลาดหลักทรัพย์ ทำให้จำเลยซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่าย บังคับให้นักลงทุนต้องมาซื้อขายกับพวกเขาในตลาดแบบซื้อขายตรง (OTC) ที่ไม่โปร่งใสและไร้ประสิทธิภาพ ซึ่งทำให้พวกเขาสามารถเรียกเก็บค่าธรรมเนียม และต้นทุนที่สูงขึ้นเป็นมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ต่อเนื่องเป็นปี ๆ จากสมาชิกกลุ่มผู้เสียหายในคดีนี้”
จำเลยผู้ทำการค้า (กลุ่มธนาคารใหญ่) รักษาผลกำไรของตนเองไว้ด้วยการวางแผนร่วมกันเพื่อขัดขวางผู้เล่นรายใหม่ทุกคนที่อาจเข้ามาสร้างการแข่งขันและความโปร่งใสให้กับฝั่งผู้ซื้อในตลาด IRS ตามที่ร้องเรียนระบุไว้ ตั้งแต่ปี 2007 เป็นต้นไป ตามที่ระบุในคำฟ้อง จำเลยผู้ทำการค้า ได้ร่วมกันข่มขู่ คว่ำบาตร บังคับ และกำจัดบริษัทหรือวิธีการใด ๆ ที่อาจนำมาซึ่งการซื้อขายบนกระดานขายหลักทรัพย์ให้กับนักลงทุนในตลาด IRS
ตามที่ทนายความระบุ ธนาคารต่าง ๆ เหล่านี้ ได้ใช้แพลตฟอร์มที่คล้ายกับระบบแลกเปลี่ยนอิเล็กทรอนิกส์เพื่อซื้อขายตราสารต่างๆ ด้วยตนเอง แต่ห้ามไม่ให้นักลงทุนและประชาชนทั่วไปเข้าใช้งาน
ผู้ฟ้องร้องกล่าวว่า ธนาคารของจำเลย ได้รับผลประโยชน์มหาศาล หรือ ได้รับกำไรอย่างไม่เป็นธรรม จากการรักษาตลาด IRS อย่างไร้ประสิทธิภาพและอยู่ในการควบคุมของตนเองตลอดหลายปีที่ผ่านมา
หากได้รับการอนุมัติจาก Paul Oetken ผู้พิพากษาศาลแขวงสหรัฐฯ ธนาคารแต่ละแห่งจะยอมยุติข้อพิพาทด้วยการจ่ายเงินจำนวน 46 ล้านดอลลาร์ แม้ธนาคารทั้งหมดจะปฏิเสธข้อกล่าวหาว่าไม่ได้กระทำผิดก็ตาม
ในปี 2022 Credit Suisse ได้ล้มละลาย และกลายเป็นส่วนหนึ่งของ UBS ได้ตกลงที่จะจ่ายเงินมูลค่า 25 ล้านดอลลาร์เพื่อยุติคดีของตนเอง
ที่มา : The dailyhodl