การคาดเดาความเคลื่อนไหวด้านราคาของ Bitcoin รวมถึงสินทรัพย์ตัวอื่น เครื่องมือตีกราฟนั้นถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่เหล่านักเทรดจำเป็นต้องใช้ให้เป็นเพื่อที่จะสามารถทำการลงทุนต่อไปได้ ซึ่งหนึ่งในเครื่องมือยอดนิยมที่สุดคงจะหนีไม่พ้น Fibonacci แต่ตัวของ Fibo เองนั้นก็มีหลายเครื่องมือให้เลือกใช้
ดังนั้นในบทความนี้เราจะพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับ Fibo Circles หนึ่งในเครื่องมือที่โปรหลายคนเลือกใช้แต่กลับไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก
Fib Circles คืออะไร ?
Fibonacci Circles คืออินดิเคเตอร์ตัวหนึ่งที่มีพื้นฐานมาจาก Fibonacci Sequence ซึ่งเป็นชุดตัวเลขที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงเทคนิคัล โดยมันจะถูกสร้างขึ้นโดยการวาด trend line ระหว่างจุดตัดที่สำคัญ 2 จุด โดยวงกลมจะถูกวาดที่ 11 ระดับตัวเลขตามอัตราส่วน Fibonacci ที่ 23.6% , 38.2%, 61.8% และ 100%
หน้าที่ของ Fib Circles
Fib Circles สามารถใช้ในการหาแนวรับและแนวต้าน โดยส่วนมากนั้นเมื่อราคาอยู่เหนือวงกลมด้านบน และราคาทะลุวงกลมด้านบนลงมา ราคามักจะลดลงไปทดสอบวงกลมด้านล่าง ซึ่งในหลายกรณีจะกลายเป็นจุดกลับตัวของราคา เทคนิคนี้สามารถใช้กับแนวต้านได้เช่นกัน เพียงแค่สลับทิศทาง โดยราคาจะวิ่งขึ้นไปแตะแนวต้านด้านบนก่อนที่จะกลับลงมา
อย่างไรก็ตามเครื่องมือดังกล่าวบน TradingView จะถูกตั้งค่าเป็น “default” ซึ่งนักเทรดสามารถเข้าไปเปลี่ยนสีเปลี่ยนระดับที่ต้องการได้เช่นกัน ทว่าหากต้องการ Trendline ที่ 45 องศานักเทรดจำเป็นที่จะกดปุ่ม Shift ค้างไว้ขณะวาด
การใช้งาน Fib Circles
ในการเริ่มต้นใช้งานให้นักเทรดคลิกที่เครื่องมือและเลื่อนลงมาในแถบ Fibonacci จะมีคำว่า Fib Circles อยู่เพียงเท่านี้ก็จะสามารถวาดวงกลมได้แล้ว
ในการวาดวงกลมนั้นให้นำ cursor ไปวางไว้ที่จุดที่สนใจโดยในกรณีนี้เราจะกำหนดไปที่จุดต่ำสุดของราคาในช่วงเดือนมีนาคม
การกำหนดจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุด
เลือกจุดที่ราคามีการกลับตัวที่ชัดเจน (Swing Low และ Swing High) เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของ Fibonacci Circles ลากวงกลมจากจุดเริ่มต้นไปยังจุดสิ้นสุดเพื่อสร้างวงกลมตามลำดับ Fibonacci (0.382, 0.5, 0.618, 1, 1.618, 2.618 เป็นต้น)
การตีความ Fib Circles
วงกลมแต่ละวงจะทำหน้าที่เป็นแนวรับหรือแนวต้าน หากราคาวิ่งเข้าหาวงกลมและมีการกลับตัว อาจเป็นสัญญาณให้ซื้อหรือขาย วงกลมที่สำคัญคือวงกลมที่เกิดจากระดับ Fibonacci ที่เป็นที่นิยม เช่น 0.618 และ 1.618
จากภาพจะเห็นได้ว่าเราได้มีการกำหนดจุดต่ำสุดที่ราคาต่ำสุดในเดือนมีนาคม และกำหนดจุดเป้าหมายไว้ที่ช่วงตุลาคม ดังนั้นจะเห็นได้ว่า ราคาลงมาทดสอบเส้นวงกลมด้านใน และมีการกลับตัวของราคาเกิดขึ้นทันที
การใช้เครื่องมือทางเทคนิคอื่น ๆ เพื่อยืนยันสัญญาณ
ทั้งนี้การใช้ Fibo Circles ควบคู่กับเครื่องมือทางเทคนิคอื่น ๆ เช่น RSI, MACD หรือ Moving Averages จะช่วยให้การวิเคราะห์มีความแม่นยำมากขึ้น และนักลงทุนควรกำหนดจุด Stop Loss และ Take Profit ตามแนวต้านถัดไปของ Fibo ที่คาดว่าจะมาถึงเพื่อป้องกันการสูญเสีย
จะเห็นได้ว่าการใช้ Fibo Circles ในการวิเคราะห์แนวโน้มราคาของ Bitcoin จะช่วยให้นักลงทุนสามารถตัดสินใจซื้อขายได้อย่างมั่นใจและมีประสิทธิภาพมากขึ้น หวังว่าเคล็ดลับเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถทำกำไรในตลาด Bitcoin ได้อย่างยั่งยืน