นาย Robert Bartholomew Ph.D. นักสังคมวิทยาการแพทย์ได้เขียนบทความลงบนเว็บไซต์ psychologytoday ว่าเขาได้ยินเกี่ยวกับเคสประหลาดที่ผู้ป่วยกล่าวอ้างว่าอุตสาหกรรมเหมืองขุด Bitcoin ทำให้พวกเขานั้น “ป่วย”
เรื่องราวนี้เกิดขึ้นที่เมือง Granbury รัฐ Texas สหรัฐอเมริกา โดยมีกลุ่มผู้ป่วยจำนวนหนึ่งร้องเรียนว่าพวกเขาเกิดอาการเจ็บป่วยอันเนื่องมาจากเสียงรบกวนที่เกิดขึ้นจากการขุด Bitcoin โดยพวกเขาเหล่านั้นมีอาการ เสียงอื้อในหู , อาการบ้านหมุน , ไมเกรน , ปัญหาการได้ยิน รวมไปถึงปัญหาเกี่ยวกับระบบหัวใจและหลอดเลือด อีกทั้งไก่ที่เลี้ยงในบริเวณนั้นยังหยุดออกไข่ และต้นไม้ก็ได้ล้มตายลง ทั้งหมดทั้งมวลเป็นผลมาจากเหมืองขุด Bitcoin
Bartholomew ระบุว่า เรื่องดังกล่าวได้ทำให้เขานึกถึง “The Hum” ซึ่งเป็นเสียงปริศนาที่เกิดขึ้นทั่วโลกและทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมาโดยตลอด ซึ่งมีหลักฐานที่น่าเชื่อถือกล่าวว่า “The Hum” อาจมีองค์ประกอบทางจิตที่รุนแรง ซึ่งการเจ็บป่วยด้วยเสียงเคยเกิดขึ้นมานานมากแล้ว เช่นในช่วงศตวรรษที่ 18-19 ได้มีคนรู้สึกไม่สบายเมื่อได้ฟังเสียงเครื่องดนตรีบางชนิด หรือจะเป็นเคสของช่วง 2016-2017 ในคิวบาที่มีคนกล่าวอ้างว่าถูกโจมตีด้วยอาวุธคลื่นเสียง แต่ผลการตรวจสอบกับระบุได้ว่าเป็นเสียงจักจั่น
มากไปกว่านั้นในกรณีที่ใกล้เคียงกันอย่างกังหันลมก็ได้มีรายงานว่า มีคนเจ็บป่วยจากการฟังเสียง “กังหันลม” ที่ใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งตามหลักแล้วกังหันลมเหล่านี้ผลิตเสียงที่มนุษย์แทบจะไม่ได้ยิน จึงทำให้มหาวิทยาลัย Auckland ทำการทดลองขึ้นโดยนำคนที่สุขภาพแข็งแรงมาใช้ชีวิตบริเวณกังหันลม ซึ่งกลุ่มที่เชื่อว่าเสียงของกังหันลมจะทำให้เจ็บป่วยมีอัตราการเจ็บป่วยที่สูงกว่าคนที่ไม่เชื่อตั้งแต่แรก
ทั้งนี้ในกรณีของเหมือง Bitcoin ที่มีการปล่อยเสียง “Hum” ที่ 70-90 เดซิเบล ซึ่งเป็นระดับที่เกินค่ามาตรฐานอยู่แล้ว ทำให้นับตั้งแต่มีการเปิดเหมืองมา มีรายงานของแพทย์ในชุมชนว่ามีผู้ป่วยที่มีอาการปวดหัว , หูติดเชื้อ , นอนไม่หลับ , บ้านหมุน เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยแพทย์อธิบายว่าหากปล่อยไว้นาน ๆ ฟังเสียงดังมาก ๆ อาการเจ็บป่วยจะถูกยกระดับขึ้นจนอาจเกิด ไมเกรน , อาการหูอื้อ , นอนไม่หลับ ซึ่งจะนำไปสู่ฮอร์โมนคอร์ติซอลที่เป็นฮอร์โมนความเครียดที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้เกิดความเสี่ยงของโรคความดันโลหิตสูง , ปัญหาด้านสมองและความจำ , ปัญหาเรื่องระดับน้ำตาลในเลือด , เบาหวานชนิด 2 , ภาวะวิตกกังวล และ โรคซึมเศร้า
อย่างไรก็ตามจำนวนของผู้ป่วบที่ร้องเรียนเข้ามามีจำนวนเพียงแค่ 40 รายจากประชากรในเมืองทั้งหมด 10,958 คน (ข้อมูลสํามะโนครัวปี 2020) โดยเมื่อพิจารณาถึงอาการต่าง ๆ ที่พวกเขาประสบพบเจอมาจะสามารถอธิบายได้ว่า ในกรณีของความดันโลหิตสูง ไมเกรน และนอนไม่หลับ นั้นเป็นปัญหาทั่วไปอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับเหมืองขุด ขณะที่อาการติดชื้อในหูไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับการฟังเสียงดังเลยเพราะมันเกิดจากไวรัสหรือแบคทีเรีย ถัดมาในเรื่องของอาการเป็นลมก็ไม่ได้เป็นผลมาจากการฟังเสียงดังเช่นกันเพราะส่วนใหญ่มักเป็นผลมาจากอาการขาดน้ำ และคลื่นความร้อนมากกว่า
ทางด้านกรณีของต้นไม้อายุกว่าศตวรรษได้ตายลง Bartholomew ระบุว่าต้นไม้ไม่ได้มีประสาทรับรู้เสียงทำให้เสียง 80-90 เดซิเบลไม่ส่งผลให้มันยืนต้นตายได้อย่างแน่นอน
ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าเสียงขุด Bitcoin ถ้าไม่ได้มีการวิจัยอย่างจริงจังก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ว่ามันก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพรุนแรงตามที่เมือง Granbury ได้กล่าวอ้างมา แต่ถึงอย่างไรก็ตามสิ่งนี้ไม่ได้หมายความว่าเราควรจะเมินเฉยต่อสิ่งที่เกิดขึ้นและทำเป็นไม่สนใจ แต่ควรศึกษาเพิ่มเติมถึงผลกระทบให้มากกว่านี้ และทั้งนี้การนำตัวเองไปอยู่ในพื้นที่มลภาวะทางเสียงเป็นเวลานานย่อมส่งผลกระทบต่อร่างกายอยู่แล้ว
ที่มา : psychologytoday