Brad Garlinghouse ซีอีโอของ Ripple Labs ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg ว่าการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปี 2024 ที่จะถึงนี้เป็นกุญแจสำคัญที่จะชี้ชะตาอุตสาหกรรมสกุลเงินดิจิทัลของสหรัฐฯ
โดยตัวเขาได้เปิดเผยว่าแม้เราจะไม่ควรนำกฎระเบียบนี้มาเกี่ยวข้องกับการเมือง เนื่องจากเป็นความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี แต่การกระทำของรัฐบาลชุดปัจจุบันนั้นมีมุมมองในแง่ลบต่ออุตสาหกรรมเป็นอย่างมาก
ซึ่งหนึ่งในตัวอย่างที่เห็นได้ชัดมากที่สุดคือการที่ Gary Gensler ประธาน SEC ได้ออกมากล่าวว่าสินทรัพย์ดิจิทัลเกือบทุกประเภทเป็นหลักทรัพย์ ที่ถึงแม้ว่าคำตัดสินของศาลหลายฉบับจะไม่เห็นด้วย แต่ SEC ก็ยังคงไม่ผ่อนปรนในการบังคับสกุลเงินดิจิทัลแต่อย่างใด
สิ่งนี้ ทำให้การต่อสู้ระหว่างอุตสาหกรรมสกุลเงินดิจิทัลและหน่วยงานกำกับดูแลทวีความรุนแรงมากขึ้น และทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับอนาคตของอุตสาหกรรมในสหรัฐฯ โดย Garlinghouse กล่าวว่าจุดยืนที่แข็งกร้าวดังกล่าวทำให้ Ripple และกลุ่มธุรกิจคริปโตทั้งหมดได้รับผลกระทบอย่างมหาศาล ในขณะที่ประเทศอื่นๆ เช่น สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และสหภาพยุโรป ได้ออกกฎหมายที่เหมาะสมเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล
และการที่ประเทศเหล่านี้ยอมรับคริปโตมากขึ้น มันทำให้ผู้ประกอบการและนักลงทุนที่มองหาความแน่นอนและทัศนคติเชิงบวกต่อสกุลเงินดิจิทัล ในขณะที่ข้อกำหนดด้านความแน่นอนในสหรัฐอเมริกาทำให้บริษัทต่างๆ ย้ายไปยังเขตอำนาจศาลที่มีกฎหมายที่ชัดเจนซึ่งเอื้อต่อเทคโนโลยีสกุลเงินดิจิทัลมากกว่า
อย่างไรก็ตาม Garlinghouse ได้ชี้ให้เห็นถึงความสำเร็จบางประการในกฎหมายภายในสหรัฐอเมริกา รวมถึงการที่สภาผู้แทนราษฎรผ่านพระราชบัญญัติ FIT21 และการพิจารณาของวุฒิสภาเป็นตัวบ่งชี้เชิงบวก โดยเฉพาะสมาชิกรัฐสภาอย่าง JD Vance ที่สนับสนุนให้มีการนำกฎหมายที่เป็นมิตรต่อสกุลเงินดิจิทัลมาใช้ ดังนั้นในไม่ช้านี้ เราอาจจะได้เห็นการออกกฎหมายที่เหมาะสม
ที่มา: TheCoinRepublic