<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

เว็บเทรดฮ่องกง “BitForex” กลับมาอีกครั้ง หลังหายไปพร้อมกับเงิน $57 ล้านนานถึง 5 เดือน

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 5 เดือนก่อน BitForex แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซี ได้สร้างความตกตะลึงให้กับผู้ใช้งาน เมื่อจู่ ๆ หายไปอย่างเงียบ ๆ ทิ้งเพียงความเงียบงันบนโซเชียลมีเดีย 

ความกังวลยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น เมื่อมีการค้นพบว่า BitForex ได้โอนเงินคริปโตเคอร์เรนซีจำนวนมหาศาลกว่า $57 ล้าน จากกระเป๋าเงินผู้ใช้ของแพลตฟอร์มไปยังกระเป๋าเงินใหม่ที่ไม่ทราบที่มา

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา BitForex ได้กลับมามีความเคลื่อนไหวอีกครั้งพร้อมประกาศถึงสาเหตุที่หายตัวไปว่าเป็นผลมาจจากการสืบสวนสอบสวนของตำรวจในมณฑลเจียงซู ของประเทศจีน ซึ่งได้มีพนักงานบางส่วนถูกควบคุมตัวเอาไว้

BitForex ยังประกาศด้วยว่าผู้ใช้งานจะสามารถทำการถอนสินทรัพย์ของตนออกมาได้ใน “เร็ว ๆ นี้” แต่แพลตฟอร์มจะไม่ได้มีการกลับมาเปิดให้บริการซื้อขายอีกต่อไปและแพลตฟอร์มจะไม่เปิดรับเงินฝากหรือเปิดรับผู้ใช้ใหม่เข้ามาสมัครสมาชิกเพื่อเข้าใช้งาน พร้อมกับกล่าวขอโทษที่ทำให้เกิดความไม่สบายใจในหมู่ผู้ใช้งาน 

ย้อนกลับไปเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ BitForex ได้มีการปิดระบบปรับปรุงโดยไม่ระบุระยะเวลา ซึ่งก็ได้มีข่าวลือหลุดออกมาว่ามีหน่วยงานใหญ่ของจีนได้ทำการควบคุมตัวใครบางคนจาก BitForex ไป เนื่องจากทางการจีนเชื่อมั่นว่า BitForex นั้นได้ทำการเปิดธุรกิจซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซีในประเทศจีน ซึ่งเป็นสิ่งต้องห้าม ทว่า Jason Luo อดีต CEO ได้ออกมาปฏิเสธข่าวลือดังกล่าวว่าไม่เป็นความจริง

Luo เปิดเผยว่า พนักงานที่ทำงานอยู่ที่สิงคโปร์ได้กลับไปยังประเทศจีนในช่วงปีใหม่ ซึ่งเป็นช่วงที่พวกเขาถูกควบคุมตัว โดย Luo กล่าวว่าเขาพยายามหาทางออกให้กับปัญหานี้อยู่ตลอดพร้อมกับจ้างทนายเข้ามาให้ความช่วยเหลือได้ 

ทั้งนี้ความสัมพันธ์ในปัจจุบันระหว่าง Luo กับเว็บเทรดยังไม่สามารถระบุว่ามีความเกี่ยวข้องกันอย่างไรเพราะเขาลงจากตำแหน่ง CEO ก่อนหน้าที่ BitForex จะหายเข้ากลีบเมฆไปไม่กี่สัปดาห์

อย่างไรก็ตามการสืบสวนที่มณฑลเจียงซู ได้ทำให้เกิดหลายคำถามขึ้นมาคือใครบ้างที่ถูกควบคุมตัว และพวกเขาทำหน้าที่อะไรบ้าง โดยเมื่ออ้างอิงข้อมูลจากโปรไฟล์บน LinkedIn จะเห็นได้ว่า BitForex มีจำนวนพนักงานระหว่าง 51-200 คน มีการตั้งสำนักงานใหญ่ในทะเบียนของฮ่องกง แต่กลับไม่มีออฟฟิศจริง ๆ ซึ่งที่อยู่ในเอกสารนั้นเมื่อสืบต่อไปจะพบว่าเป็นที่อยู่ที่ได้จากการใช้งานบริการที่อยู่จำลอง virtual address services สิ่งนี้ทำให้นักเทรดเกิดความไม่มั่นใจในความน่าเชื่อถือของบริษัทเป็นอย่างมาก

นอกเหนือจากหน่วยงานของประเทศจีนแล้วหน่วยงาน  Securities and Futures Commission ของฮ่องกงยังได้ตั้งข้อสงสัยด้วยว่า BitForex อาจมีความเกี่ยวข้องกับกิจกรรมการหลอกลวงผู้ใช้ 

BitForex ไม่ใช่แพลตฟอร์มเดียวที่มีปัญหากับทางการจีน แม้ว่าจะทราบกันดีถึงความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจในประเทศจีนแต่ก็ยังมีการลักลอบเปิดกิจการกันอยู่ต่อเนื่อง เนื่องจากค่าแรงในจีนแผ่นดินใหญ่นั้นถูกกว่ามาก ยกตัวอย่างเช่นกรณีของ CEO ของ Multichain ซึ่งถูกจับกุมตัว ที่เมืองคุนหมิง ทางตอนใต้ของจีน