รายงานล่าสุดของ Galaxy Research ได้ออกมาเปิดเผยว่า Bitcoin Layer 2 ส่วนใหญ่อาจเผชิญปัญหาความยั่งยืนในระยะยาวเนื่องจากต้นทุนการดำเนินงานที่สูง ในขณะที่ผู้พัฒนาเน้นวิจัยในด้าน Bitcoin rollups ซึ่งเป็นโซลูชั่นที่ออกแบบมาเพื่อทำให้การทำธุรกรรมมีความคุ้มค่าและรวดเร็ว
โดย Rollups คือโซลูชั่นการขยายขนาดของ Blockchain ที่ทำงานนอกเครือข่าย (off-chain) ซึ่งจะเพิ่มความสามารถในการประมวลผลของบล็อกเชนด้วยการรวมหลายธุรกรรมเป็นธุรกรรมเดียวและส่งไปยังเครือข่ายหลัก
โดยมีตัวอย่างเช่นบล็อกเชน Ethereum ที่ได้มีการนำ rollups มาใช้อย่างเช่น Optimism และ Arbitrum ที่นำระบบนี้มาใช้เพื่อปรับปรุงการขยายขนาดของเครือข่าย ในขณะที่การนำ rollups มาใช้บน Bitcoin นั้นยังคงอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา
รายงานยังได้ระบุอีกว่า Bitcoin rollups ยังมีปัญหาเนื่องจากจำเป็นต้องสร้างรายได้จากค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมจำนวนมากเพื่อครอบคลุมต้นทุนการดำเนินงาน ส่งผลให้ค่าธรรมเนียมในการเผยแพร่ข้อมูลบนบล็อกเชน Bitcoin มีค่าใช้จ่ายสูงและต้องมีการเผยแพร่ข้อมูลบ่อยครั้ง โดยธุรกรรมแต่ละรายการอาจใช้พื้นที่บล็อกสูงถึง 400KB ซึ่งอาจเพิ่มต้นทุนการทำธุรกรรมให้สูงขึ้น
ซึ่งจากการคาดการณ์พบว่า การ rollups หลายรายการจะมีการเผยแพร่ข้อมูลทุกๆ 6-8 บล็อก ซึ่งทำให้ค่าธรรมเนียมบนเครือข่ายเพิ่มขึ้นอย่างมาก และอาจทำให้ธุรกรรมขนาดเล็กถูกกีดกันได้
และด้วยขนาดบล็อกของ Bitcoin ที่จำกัดที่ 4MB ส่งผลให้ธุรกรรมจาก rollup อาจใช้พื้นที่บล็อกได้สูงถึง 10% โดย Galaxy Research ประเมินว่าในสภาวะค่าธรรมเนียมต่ำ (10 sat/vB) rollups อาจมีค่าใช้จ่ายต่อเดือนที่ 460,000 ดอลลาร์ ในขณะที่ในสภาวะค่าธรรมเนียมสูง (50 sat/vB) ค่าใช้จ่ายอาจเพิ่มขึ้นถึง 2.3 ล้านดอลลาร์ต่อเดือน
ที่มา:Atlas21