<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

มูลค่าตลาดคริปโตร่วงหนัก กว่า 3.6 แสนล้านดอลลาร์ อะไรคือสาเหตุของการร่วงครั้งนี้?

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ตลาดคริปโตขึ้นชื่อเรื่องความผันผวนและการเปลี่ยนแปลงราคาอย่างรวดเร็ว อย่างเหตุการณ์เมื่อจีนสั่งห้ามการซื้อขายและขุดคริปโตในเดือนพฤษภาคม ปี 2021 ราคา Bitcoin ก็ร่วงลงถึง 50% เหลือเพียง 30,000 ดอลลาร์ เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งในโลกของสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งมันเป็นเหมือนบททดสอบความเชื่อมั่นของนักลงทุนและความสามารถในการฟื้นตัวของตลาด

อย่างไรก็ตาม ตลาดคริปโตก็ต้องเผชิญกับความผันผวนครั้งใหญ่เมื่อมูลค่าตลาดรวมลดลงอย่างรวดเร็วถึง 3.6 แสนล้านดอลลาร์ภายใน 24 ชั่วโมง Bitcoin ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดก็ร่วงลง 14% ทำให้ราคาต่ำสุดในวันจันทร์อยู่ที่ 49,300 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 25 สัปดาห์ เหตุการณ์นี้ทำให้นักลงทุนเกิดความกังวลว่าตลาดกระทิงจะสิ้นสุดลง และต่างมองหาสาเหตุของการล่มสลายครั้งนี้

อะไรอยู่เบื้องหลังการร่วงแรงในครั้งนี้?

การลดลงของมูลค่าคริปโตรุนแรงขึ้นในเย็นวันอาทิตย์ ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับสิ่งที่ผลักดันให้ตลาดปั่นป่วน นักลงทุน SlumDOGE Millionaire ได้ออกมาอธิบายโดยถามว่า ‘ทำไมคริปโตถึงร่วงแรง?’

มูลค่าตลาดคริปโตทั้งหมดลดลง 3.6 แสนล้านดอลลาร์เป็น 1.8 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ซึ่งลดลง 14% และทำให้ราคาเหรียญตกลงอย่างมาก

โดยทั่วไปแล้ว Altcoins มีผลประกอบการแย่กว่า Bitcoin โดยเหรียญ Altcoin ใน 100 อันดับแรกที่ร่วงมากที่สุด คือ Lido DAO, Aave และ JasmyCoin ลดลง 27%, 25% และ 24% ตามลำดับ ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ณ เวลาที่เขียน

การขาดทุนของนักลงทุนทำให้เกิดความกลัวอย่างชัดเจนในตลาด โดยหลายคนเตรียมพร้อมสำหรับการเทขายเพิ่มเติม ท่ามกลางความวิตกกังวลนี้ แต่ก็ยังคงสงสัยว่าอะไรเป็นสาเหตุของความวุ่นวาย

จุดจบของ Yen Carry Trade

เพื่อทำความเข้าใจว่าอะไรเป็นสาเหตุของการล่มสลายของคริปโต Arthur Hayes ผู้ร่วมก่อตั้ง BitMEX คาดการณ์ว่าบริษัทใหญ่อาจถูกบังคับให้ชำระบัญชีการถือครองคริปโต อย่างไรก็ตาม เฮย์สตั้งข้อสังเกตว่าข้อมูลนี้ยังไม่ได้รับการตรวจสอบ

Ran Neuner ผู้ก่อตั้ง Crypto Banter Podcast ได้แบ่งปันข้อมูลบนเครือข่าย โดยเปิดเผยว่า Jump Trading กำลังขาย crypto ในอัตราที่เร็วผิดปกติ เขาคาดการณ์ว่านี่อาจเป็นเพราะการชำระบัญชีที่อาจเกิดขึ้นหรือการปฏิบัติตามภาระผูกพันทางการเงินเร่งด่วน

นักลงทุน ‘jonathan(love)wu’ เสนอความเชื่อมโยงระหว่างการเทขาย crypto กับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) เมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งเป็นครั้งที่สองในรอบ 17 ปี อีกทั้ง jonathan(love)wu อธิบายว่า yen carry trade ซึ่งนักเทรดยืมเงินเยนด้วยดอกเบี้ยศูนย์เพื่อลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าในต่างประเทศ ได้รับการหยุดชะงัก

การเปลี่ยนแปลงนโยบายของ BoJ ทำให้ต้นทุนการกู้ยืมเพิ่มขึ้นและทำให้เงินเยนแข็งค่าขึ้นโดยการขึ้นอัตราดอกเบี้ย อาจบังคับให้ผู้ค้าต้องยกเลิกสถานะของตน ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการขายสินทรัพย์ต่างประเทศ รวมถึงคริปโตด้วยเพื่อซื้อเยนคืนและชำระคืนเงินกู้

jonathan(love)wu คาดการณ์ว่าการคลายสถานะนี้อาจมีส่วนทำให้ราคาคริปโตลดลงอย่างรวดเร็ว

นอกจากการคลายสถานะของ yen carry trade แล้ว ความไม่แน่นอนในตลาด crypto ยังทวีความรุนแรงขึ้นจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลาง

ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง

การลอบสังหาร Ismail Haniyeh ผู้นำกลุ่ม Hamas ในกรุงเตหะรานเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ทำให้ความตึงเครียดในตะวันออกกลางทวีความรุนแรงขึ้นอย่างมาก เจ้าหน้าที่อิหร่านกล่าวหาว่ากองกำลังอิสราเอลใช้ขีปนาวุธพิสัยใกล้ในการโจมตี และได้ให้คำมั่นว่าจะแก้แค้น และยังกล่าวหาว่าสหรัฐฯ สนับสนุนการโจมตี เจ้าหน้าที่อิสราเอลไม่ได้อ้างความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ดังกล่าว

สถานการณ์นี้ได้สร้างเงามืดให้กับตลาดการเงินทั่วโลก รวมถึง cryptocurrencies ภัยคุกคามของการ leovelation ที่เพิ่มขึ้นและความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นในวงกว้างได้เพิ่มแรงกดดันต่อสินทรัพย์เสี่ยง ซึ่งมีส่วนทำให้ตลาดคริปโตตกต่ำลงเมื่อเร็ว ๆ นี้

อย่างไรก็ตาม ความคิดเห็นภายในชุมชน crypto ยังคงแตกแยก เช่น นักเทรดที่มีชื่อว่า Satoshi Flipper มองข้ามสถานการณ์ โดยบอกว่าสถานการณ์ดังกล่าวเป็น “ข่าว FUD ที่เกินจริง” โดยทำนายว่าจะไม่มีภาวะถดถอยหรือสงครามเต็มรูปแบบในอนาคตอันใกล้

นอกจากนี้นักเทรดคนอื่นๆ เช่น ‘Scient’ มองว่าการลดลงของตลาดคริปโตครั้งล่าสุดเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการลดลงของตลาดที่ใหญ่กว่า ซึ่งบ่งชี้ว่าความขัดแย้งในตะวันออกกลางมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น มุมมองที่แตกต่างเหล่านี้สะท้อนถึงความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นในตลาด

ที่มา: dailycoin