<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Memecoin ร้อนแรง ! แต่โปรเจกต์กว่า 97% กลับล้มเหลว อะไรคือสิ่งที่นักลงทุนต้องระวัง ?

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เหรียญมีมได้กลายเป็นปรากฏการณ์ที่ร้อนแรงที่สุดในโลกคริปโตเคอร์เรนซี นำโดยเหรียญมีมอย่าง Dogecoin, Pepe และ Shiba Inu ที่ได้กลายมาเป็นกลุ่มเหรียญที่เติบโตเร็วที่สุดในอุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซีที่ฟื้นตัวในปีนี้ 

ในช่วงสองปีที่ผ่านมา จำนวนโปรเจกต์ที่เกี่ยวข้องกับเหรียญมีมเพิ่มขึ้นกว่า 440% ทำให้กลุ่มเหรียญมีม กลายเป็นกลุ่มที่มีมูลค่าตลาดสูงสุดอันดับที่ 4 ในวงการคริปโต แซงหน้ากลุ่ม Defi ไปเป็นที่เรียบร้อย อ้างอิงตามข้อมูลจาก BDC Consulting

อย่างไรก็ตาม รายงานล่าสุดจาก Chainplay ชื่อว่า “State of Memecoin 2024” ได้นำเสนอแง่มุมที่น่าสะเทือนใจเกี่ยวกับความไม่น่าเชื่อถือของโปรเจกต์เหรียญมีมหลาย ๆ แห่ง โดยระบุว่าอายุเฉลี่ยของเหรียญเหล่านี้มีอายุเพียงแค่ 1ปี ซึ่งน้อยกว่าหนึ่งในสามของอายุเฉลี่ยของโปรเจกต์คริปโตทั่ว ๆ ไป เนื่องจากอัตราการหมุนเวียนที่สูงนี้ นักลงทุนในเหรียญมีมเกือบ 60% มองว่าเหรียญเหล่านี้เป็นการลงทุนระยะสั้น และมีเหรียญมีมมากถึง 97% ที่ล้มหายไปจากตลาดคริปโต

ก่อนอื่นเราจะพาไปทำความรู้จักกับ “Death rate” หรืออัตราการพังพินาศของเหรียญมีม ซึ่งจะถูกจัดประเภทด้วยเกณฑ์ต่างๆ อาทิเช่น เว็บไซต์ที่ถูกลบ, บัญชี X ที่ไม่เคลื่อนไหว หรือมูลค่าตลาดที่ต่ำกว่า 1,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นต้น ซึ่งในแต่ละเดือนมีโปรเจกต์เหรียญมีมมากถึง 2,000 โปรเจกต์ที่เข้าข่ายล้มเหลว

ในบล็อกเชนชั้นนำอย่าง Base , Solana และ Ethereum นั้นจะมีอัตรา “Death rate” อยู่ที่ 67%, 54% และ 37% ตามลำดับ

กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ 2 ใน 3 ของเหรียญมีมที่ถูกสร้างขึ้นบน Base Chain ได้ตายลงไปแล้ว และเมื่อพิจารณาถึงความแพร่หลายของการหลอกลวง รายงานพบว่ามีเหรียญมีมกว่า 50% ถูกพิจารณาว่าเป็น Scam หรือการสร้างเหรียญขึ้นมาเพื่อการหลอกลวงเงิน และ 1 ใน 3 ของนักลงทุนในเหรียญเหล่านี้รายงานว่าพวกเขาได้ประสบกับการขาดทุน

เหรียญมีมทำให้ชุมชนคริปโตแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง!

ไม่ว่าคุณจะรักหรือเกลียดพวกมัน ตามรายงานระบุว่า 1 ใน 6 ของนักลงทุนหน้าใหม่ (ที่อยู่ในตลาดน้อยกว่า 6 เดือน) มองว่าเหรียญมีมนั้น เป็นส่วนสำคัญที่ “ต้องมี” อยู่ในพอร์ตโฟลิโอของพวกเขา แต่ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น

ผู้ที่สนับสนุนเหรียญมีมมองว่า เหรียญมีมคือตัวแทนที่บริสุทธิ์ที่สุด สำหรับสัญญาอันยิ่งใหญ่ของคริปโตเคอร์เรนซี นั่นคือการทำให้การเงินเป็นของประชาชนทุกคน โดยที่ไม่ว่าใครก็สามารถสร้างเหรียญมีมขึ้นมาได้ในชื่ออะไรก็ตาม ในบรรดา 300 อันดับแรกของสกุลเงินดิจิทัล มีเหรียญอย่าง “Smoking Catfish”, “Kamala Horris” และ “I love puppies” การผสมผสานระหว่างการเงิน เทรนด์อินเทอร์เน็ต และการพนัน ทำให้นักลงทุนหลั่งไหลเข้ามาสู่สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงเหล่านี้ในช่วงเวลาที่ได้รับความนิยม

แม้แต่เหล่าเซเลบคนดังอย่าง Caitlyn Jenner, Iggy Azalea, และ Andrew Tate ก็ได้เข้ามาแสวงหาผลประโยชน์จากความคึกคักนี้เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม นักวิจารณ์รุ่นใหญ่อย่าง Vitalik Buterin ผู้ก่อตั้ง Ethereum ได้โพสต์ข้อความวิจารณ์วัฒนธรรมเหรียญมีมเซเลบใน X โดยกล่าวว่า เหรียญมีมควร “มีเป้าหมายที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ” แทนที่จะ “ใช้มันเพียงเพื่อหาผลประโยชน์ทางการเงินอย่างเดียว” และเขากล่าวเสริมว่าเหรียญมีมควรมีอายุการใช้งานนานเป็น 10 ปี หรือมากกว่านั้น “แทนที่จะมีชีวิตอยู่เพียงไม่กี่เดือนแล้วก็ถูกลืม” 

ที่มา:finance.yahoo