ในปี 2020 MicroStrategy บริษัทซอฟต์แวร์ยักษ์ใหญ่ ได้ตัดสินใจลงทุนใน Bitcoin และนำสินทรัพย์ดิจิทัลนี้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของงบดุล ซึ่งถือเป็นการเคลื่อนไหวที่สร้างความฮือฮาในวงการลงทุนทั่วโลก การตัดสินใจครั้งนั้นได้จุดประกายให้บริษัทอื่นๆ เริ่มหันมาสนใจ Bitcoin มากขึ้น จนกลายเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับการยอมรับจากนักลงทุนสถาบัน
เทรนด์การนำ Bitcoin เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของงบดุลได้กลายเป็นที่นิยมในบรรดาบริษัทชั้นนำ โดยหลายองค์กรเริ่มศึกษาและนำมาปรับใช้กับธุรกิจของตน ซึ่งพวกเขามองว่า Bitcoin เป็นสินทรัพย์สำรองที่มีศักยภาพในการเติบโตในระยะยาว
และบทความนี้ ทางสยามบล็อกเชน จะพาทุกคนไปเจาะลึก 5 บริษัทชั้นนำที่เดินตามรอย แนวทางของ MicroStrategy ในการนำ Bitcoin เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ทางธุรกิจของพวกเขา มาดูกันว่า 5 บริษัทชั้นนำเหล่านี้จะมีบริษัทไหนกันบ้าง
Tesla
ที่มาภาพ : finance.yahoo
Tesla เป็นอีกหนึ่งบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ตัดสินใจนำ Bitcoin เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของงบดุล ตามรอยความสำเร็จของ MicroStrategy ซึ่งเป็นบริษัทซอฟต์แวร์รายใหญ่ที่ลงทุนใน Bitcoin เป็นจำนวนมากก่อนหน้านี้ การตัดสินใจของ Tesla นี้ถือเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงศักยภาพและความน่าสนใจของ Bitcoin ในฐานะสินทรัพย์สำรองที่สำคัญ
เหตุผลที่ Tesla เลือกถือ Bitcoin นั้นมีความคล้ายคลึงกับ MicroStrategy คือเพื่อ
- เพิ่มความหลากหลายให้กับพอร์ตโฟลิโอ: การถือครอง Bitcoin ช่วยกระจายความเสี่ยงและลดการพึ่งพาสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ
- ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ: Bitcoin มักถูกมองว่า สามารถต้านทานต่อเงินเฟ้อได้
- แสดงวิสัยทัศน์ด้านเทคโนโลยี: การลงทุนใน Bitcoin สอดคล้องกับภาพลักษณ์ของ Tesla ในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม
ปริมาณการถือครอง Bitcoin ของ Tesla นั้นมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากบริษัทอาจซื้อหรือขาย Bitcoin ได้ตามความเหมาะสมของสถานการณ์ทางธุรกิจ อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาที่ Tesla ประกาศการลงทุนใน Bitcoin ครั้งแรก บริษัทได้ซื้อ Bitcoin มูลค่ากว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ ในช่วงต้นปี 2021 ซึ่งถือเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ในสินทรัพย์ดิจิทัลของบริษัทจดทะเบียน
ผลกระทบจากการถือครอง Bitcoin ของ Tesla นั้นส่งผลให้ราคา Bitcoin พุ่งสูงขึ้นอย่างมาก และดึงดูดความสนใจจากนักลงทุนรายย่อยและสถาบันทั่วโลก นอกจากนี้ ยังทำให้บริษัทอื่น ๆ เริ่มพิจารณาที่จะนำ Bitcoin เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของงบดุลเช่นกัน
แต่ต่อมาในปีเดียวกัน Tesla ได้ตัดสินใจขาย Bitcoin ออกไปประมาณ 75% ของที่ถือครองทั้งหมด เพื่อเป็นการทดสอบสภาพคล่องของตลาดคริปโต
Square
ที่มาภาพ : pymnts
Square หรือที่รู้จักกันในชื่อ Block ในปัจจุบัน เป็นอีกหนึ่งบริษัทเทคโนโลยีที่ให้ความสำคัญกับ Bitcoin และได้ตัดสินใจนำ Bitcoin เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของงบดุล เช่นเดียวกับ MicroStrategy การตัดสินใจของ Square นี้สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของ Bitcoin ในฐานะสินทรัพย์ที่มีมูลค่าและเป็นอนาคตของระบบการเงิน
เหตุผลที่ Square เลือกถือ Bitcoin มีความคล้ายคลึงกับ MicroStrategy คือเพื่อ:
- เพิ่มความหลากหลายให้กับพอร์ตโฟลิโอ: การถือครอง Bitcoin ช่วยกระจายความเสี่ยงและลดการพึ่งพาสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ
- สนับสนุนระบบการเงินแบบกระจายอำนาจ: Square เชื่อมั่นในเทคโนโลยีบล็อกเชนและมองเห็นศักยภาพของ Bitcoin ในการปฏิรูประบบการเงิน
- ตอบสนองความต้องการของลูกค้า: การให้บริการที่เกี่ยวข้องกับ Bitcoin ช่วยตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่สนใจในสินทรัพย์ดิจิทัล
ปริมาณการถือครอง Bitcoin ของ Square มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เช่นเดียวกับ Tesla และ MicroStrategy เนื่องจากบริษัทอาจมีการซื้อขาย Bitcoin เพิ่มเติมหรือลดปริมาณการถือครองได้ตามความเหมาะสมของสถานการณ์ทางธุรกิจ
Marathon Digital Holdings
ที่มาภาพ : siamblockchain
Marathon Digital Holdings เป็นอีกหนึ่งบริษัทเหมืองขุดยักษ์ใหญ่ที่เข้ามาร่วมในกระแสการถือครอง Bitcoin ในงบดุล ตามรอย MicroStrategy โดยบริษัทมีจุดเด่นที่แตกต่างจากบริษัทอื่นๆ คือ เน้นการขุด Bitcoin ด้วยตัวเอง ทำให้บริษัทมีแหล่งที่มาของ Bitcoin ที่ยั่งยืน
ทำไม Marathon Digital Holdings ถึงเลือกถือ Bitcoin?
- แหล่งรายได้หลัก: กำไรหลักของบริษัทมาจากการขุด Bitcoin ดังนั้นการถือครอง Bitcoin จึงเป็นเหมือนการลงทุนในสินทรัพย์ที่ผลิตเอง
- การกระจายความเสี่ยง: การถือครอง Bitcoin ช่วยกระจายความเสี่ยงจากธุรกิจหลัก และสร้างรายได้เพิ่มเติมจากการเปลี่ยนแปลงของราคา Bitcoin
- สนับสนุนระบบนิเวศของ Bitcoin: การขุด Bitcoin ช่วยรักษาความปลอดภัยให้กับเครือข่าย Bitcoin และสนับสนุนการเติบโตของระบบนิเวศ
Marathon Digital Holdings บริษัทที่ให้ความสำคัญกับ Bitcoin และนำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ทางธุรกิจ โดยมีการระดมทุนเพื่อนำเงินไปซื้อ Bitcoin เพิ่มเติมตามนโยบาย “Full HODL” โดยเฉพาะแค่ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา บริษัทถือครอง Bitcoin มากถึง 20,818 BTC คิดเป็นมูลค่ามากกว่า 1.14 พันล้านดอลลาร์
Metaplanet
ที่มาภาพ : The crypto times
Metaplanet เป็นบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นที่น่าจับตามองในแวดวงคริปโต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคเอเชีย บริษัทนี้ได้สร้างชื่อเสียงให้ตัวเอง ด้วยกลยุทธ์การลงทุนใน Bitcoin ที่คล้ายคลึงกับ MicroStrategy
เหตุผลหลักที่ Metaplanet เลือก Bitcoin ก็คือเพื่อ:
- เพิ่มความหลากหลายให้กับพอร์ตโฟลิโอ: การถือครอง Bitcoin ช่วยกระจายความเสี่ยงและลดการพึ่งพาสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ
- ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ: Bitcoin มักถูกมองว่าเป็นปราการดิจิทัลที่สามารถต้านทานต่อเงินเฟ้อได้
- แสดงวิสัยทัศน์ด้านเทคโนโลยี: การลงทุนใน Bitcoin สอดคล้องกับภาพลักษณ์ของบริษัทที่ทันสมัยและให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีใหม่ๆ
ปัจจุบัน Metaplanet ยังคงซื้อ Bitcoin สะสมเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัท Metaplanet ถือครอง Bitcoin อยู่ประมาณ 303.095 BTC ซึ่งมีมูลค่าเกือบ 3 พันล้านเยน
Brook
Brook เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของบริษัทไทยที่ให้ความสนใจใน Bitcoin และนำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ทางธุรกิจ การลงทุนใน Bitcoin ของ Brook ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับบริษัท แต่ยังเป็นการสนับสนุนให้ระบบนิเวศของ Bitcoin เติบโตขึ้นในประเทศไทยอีกด้วย
Brooker Group ได้เข้าลงทุนใน Bitcoin เป็นจํานวน 122.3158 เหรียญ รวมเป็นมูลค่าลงทุน ประมาณ 6.6 ล้านดอลลาร์ เมื่อสิ้นไตรมาสที่ 1/2564 โดยการลงทุนในครั้งนั้นเป็นไปตามแผนการลงทุนที่ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการของ บริษัทฯ และอาจขยายการลงทุนได้ถึง 1,500 ล้านบาท หรือ เทียบเท่าประมาณ 48 ล้านดอลลาร์
ที่มาภาพ : techsauce
สรุป
การที่บริษัทต่างๆ เลือกที่จะถือ Bitcoin ในงบดุลนั้น สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของ Bitcoin ในฐานะสินทรัพย์ที่มีมูลค่า และเป็นอนาคตของระบบการเงิน อย่างไรก็ตาม การลงทุนใน Bitcoin ยังคงมีความเสี่ยงสูง ผู้ที่สนใจควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียดก่อนตัดสินใจลงทุน
คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้