<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

พลิกโผตลาด! SUI, ZEC และ HNT พุ่งทะยานเลขสองหลัก ท่ามกลางตลาดคริปโตที่ซบเซา

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ราคา ZEC, HNT และ SUI พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว สองเท่าถึงสามเท่า แม้ตลาดคริปโตโดยรวม ยังคงเผชิญกับผลกระทบจากการปรับฐานราคาครั้งใหญ่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ราคา Bitcoin เพิ่มขึ้น 6% ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา แต่ยังทำผลงานได้ต่ำกว่าตลาดคริปโตโดยรวม ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเกือบ 10% ในช่วงเวลาเดียวกัน

กราฟรายสัปดาห์ของ BTC/USD ที่มา: TradingView

Bitcoin มีกำไรเล็กน้อยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากหลายสาเหตุ แต่มี altcoin บางตัว ที่ทำผลตอบแทนหลักสองหลักในช่วงเวลาเดียวกัน มาดู altcoin ทั้ง 3 สามตัวที่สามารถทำผลงานดีกว่า Bitcoin กัน

SUI ทำกำไรเพิ่ม 100% ขึ้นไป

SUI (SUI) เหรียญคริปโตที่มีมูลค่าตลาดใหญ่เป็นอันดับที่ 30 ทำผลงานเหนือกว่า Bitcoin ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา โดยราคาเพิ่มขึ้น 109% จากระดับราคาต่ำสุดที่ 0.5349 ดอลลาร์ เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม เพิ่มขึ้นไปจนถึงระดับสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์ที่ 1.118 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม

กราฟรายวัน SUI/USD ที่มา: TradingView

ราคา SUI พุ่งขึ้น หลังจากการเปิดตัว Grayscale Sui Trust โดย Grayscale Investments เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม การตัดสินใจเพิ่ม SUI เข้าในพอร์ตการลงทุนของบริษัท ถือเป็นการแสดงความเชื่อมั่นในอนาคตของโทเค็น จึงส่งผลให้เกิดแรงซื้อที่เพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา

จากมุมมองทางเทคนิค SUI ได้สร้างแนวรับที่แข็งแกร่งอยู่ที่ระดับ 0.86 ดอลลาร์ ซึ่งอยู่ระหว่างค่าเฉลี่ยเคลื่อน EMA ราย 50 วัน ที่ 0.8096 ดอลลาร์ และ EMA 100 วัน ที่ 0.9086 ดอลลาร์

ดัชนี RSI  อยู่ในโซนบวกที่ระดับ 64 ซึ่งบ่งชี้ว่า สภาวะตลาดยังคงเอื้อต่อการปรับตัวขึ้น

กราฟรายวัน SUI/USD ที่มา: TradingView

ด้วยการวิเคราะห์กราฟทางเทคนิค ราคาของ SUI อาจเพิ่มขึ้นเหนือเส้น EMA ราย 200 วัน อยู่ที่ 0.9944 ดอลลาร์ และทดสอบระดับสูงสุดที่ 1.118 ดอลลาร์ได้อีกครั้ง หากสามารถทะลุผ่านเกณฑ์นี้ไปได้  ราคา SUI อาจเพิ่มขึ้น เพื่อทดสอบจุดสูงสุดในช่วงเมื่อวันที่ 21 เมษายน ที่ 1.4355 ดอลลาร์ ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

ราคา HNT ของ Helium พุ่งขึ้นมากกว่า 50%

ราคา HNT ของ Helium พุ่งขึ้นกว่า 50.98% ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา ตามข้อมูลจาก Cointelegraph Markets Pro และ TradingView แสดงให้เห็นว่า ราคา HNT เพิ่มขึ้นจากระดับต่ำสุดเมื่อเร็ว ๆ นี้ที่ 3.47 ดอลลาร์ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม และราคาเพิ่มขึ้นถึง 104% ไปจนถึงระดับสูงสุดภายในวันเดียวอยู่ที่ 7.11 ดอลลาร์ในวันที่ 13 สิงหาคม

ปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น 86.6% จาก 13.78 ล้านดอลลาร์ ไปเป็น 25.72 ล้านดอลลาร์ ระหว่างวันที่ 6 สิงหาคม ถึง 13 สิงหาคม ส่งผลให้กิจกรรมด้านความต้องการมีความเข้มข้นมากขึ้น

การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ตามมา หลังจากการประกาศที่สำคัญว่า ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือชั้นนำ 2 รายของสหรัฐฯ กำลังทดสอบการถ่ายโอนปริมาณการใช้งานมือถือไปยังเครือข่าย Helium ซึ่งอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายแบบกระจายอำนาจ 

การทดสอบแสดงให้เห็นผลลัพธ์เชิงบวก และถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับภารกิจของ Helium ในการกระจายอำนาจโครงสร้างพื้นฐานเครือข่าย

การพัฒนานี้ได้จุดประกายความสนใจใหม่ใน Helium มากขึ้น ส่งผลให้ความต้องการและราคาเพิ่มสูงขึ้น

ในทางเทคนิค ราคา HNT ได้สร้างสัญญาณ golden cross บนกราฟรายวัน ซึ่งบ่งชี้ว่าโมเมนตัมขาขึ้นที่แข็งแกร่ง อาจผลักดันโทเค็นให้ราคาพุ่งสูงขึ้นต่อไป โดยค่า RSI ที่ระดับ 68 อยู่ใกล้กับโซนซื้อมากเกิน ตอกย้ำอำนาจเหนือของผู้ซื้อในตลาด

กราฟรายวัน HNT/USD ที่มา: TradingView

ราคา HNT อาจยังคงอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น โดยราคาพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในช่วงเดือนมีนาคม 2024 ที่ 9.60 ดอลลาร์  หากราคาปิดเหนือระดับนี้ได้ อาจทำให้ราคาในช่วงขาขึ้นสามารถทดสอบระดับสูงสุดในรอบหลายปีอยู่ที่ 11.16 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นเป้าหมายขาขึ้นครั้งต่อไป

Zcash ราคาพุ่งกว่า 51%

ราคา Zcash พุ่งขึ้น 51.15% ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา จากระดับต่ำสุดที่ 29 ดอลลาร์ในวันที่ 6 สิงหาคม ไปจนถึงระดับสูงสุดภายในวันเดียวที่ 44 ดอลลาร์ในวันที่ 13 สิงหาคม การพุ่งขึ้นนี้ส่วนใหญ่มาจากแรงผลักดันสำหรับการอัปเกรดเป็นแบบผสมผสานระหว่าง proof-of-stake (PoS) โดย Zooko Wilcox ผู้ก่อตั้ง Zcash หลังจากเข้าร่วม Shielded Labs

ในบล็อกโพสต์เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม Wilcox กล่าวว่า หลังจากใช้การขุดแบบ proof-of-work (PoW) มาเป็นเวลาแปดปี ถึงเวลาแล้วที่โปรเจกต์จำเป็นต้องย้ายไปใช้โปรโตคอลแบบผสมระหว่าง proof-of-work และ proof-of-stake

การพัฒนานี้ได้รับการสนับสนุนจาก Tyler Winklevoss ผู้ร่วมก่อตั้ง Gemini Exchange Winklevoss ได้สนับสนุน Zcash อย่างเปิดเผย โดยอธิบายว่า เป็นหนึ่งในโปรเจกต์คริปโตที่ “สำคัญที่สุดและถูกมองข้ามมากที่สุด” จากที่มีอยู่

รูปแบบไฮบริดมีเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดจากกลไก PoW โดยเปิดโอกาสการ staking สำหรับผู้ถือ ZEC และลดอุปทานหมุนเวียนลงไปอีก ทำให้มูลค่าของมันมีความเสถียรและส่งผลดีต่อราคา ZEC

จากมุมมองทางเทคนิค ZEC มีความเสี่ยงที่จะมีการปรับฐาน เนื่องจากสถานะซื้อมากเกินไปโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การอ่านค่า RSI รายวันของโทเค็นอยู่เหนือ 70 นับตั้งแต่วันที่ 9 สิงหาคม ในขณะเดียวกัน ราคาของ Zcash ซื้อขายใกล้กับแนวต้านที่ 44 ดอลลาร์ เพิ่มโอกาสในการเกิดการปรับฐาน หรือช่วงพักฐานในครั้งต่อไป

กราฟรายวัน ZEC/USD ที่มา: TradingView

การปรับตัวลงจากระดับปัจจุบัน อาจทำให้นักเทรดคาดการณ์ว่า ราคาจะปรับฐานในระดับ Fibonacci 23.6% อยู่ที่ 39.68 ดอลลาร์

ที่มา : cointelegraph