Bitcoin ยังคงอยู่ในช่วงราคาเดิม ณ เวลาเปิดตลาด Wall Street ในวันที่ 30 สิงหาคม ในขณะที่นักเทรดเริ่มเปรียบเทียบการเคลื่อนไหวของราคา BTC กับการลดลงในปี 2023
Bitcoin ไม่ตอบสนองต่อข้อมูลเงินเฟ้อ PCE ล่าสุดของสหรัฐฯ
ข้อมูลจาก Cointelegraph Markets Pro และ TradingView แสดงให้เห็นว่า BTC/USD ยังมีราคาซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 59,500 ดอลลาร์
ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคสหรัฐฯ ล่าสุดในรูปแบบของดัชนีการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ไม่ได้ช่วยเปลี่ยนแปลงสถานการณ์มากนักและ Bitcoin ยังคง Sideway
โดยข้อมูลนี้ออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้เล็กน้อย ซึ่งยิ่งสนับสนุนกรณีที่คาดการณ์ไว้แล้วว่าการลดอัตราดอกเบี้ยจะเริ่มขึ้นในเดือนกันยายน
การประมาณการล่าสุดจาก FedWatch Tool ของ CME Group แสดงให้เห็นว่าความเป็นไปได้ของตลาดเกี่ยวกับขนาดของการลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกโดยรวมไม่เปลี่ยนแปลงหลังจากการประกาศ PCE
อย่างไรก็ตาม ด้วยการยังย่ำราคาที่ต่ำกว่าระดับ 60,000 ดอลลาร์เล็กน้อย Bitcoin ไม่ได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับนักเทรดที่หวังว่าจะสามารถเรียกคืนแนวโน้มขาขึ้นได้แม้เพียงเล็กน้อยก็ตาม
ในการอัปเดตวิดีโอล่าสุดของเขาบน X นักเทรดยอดนิยม Crypto Ed เข้าร่วมกับผู้ที่เน้น 62,000 ดอลลาร์ว่าเป็นการพลิกกลับแนวต้าน/แนวรับที่สำคัญที่กระทิงต้องการ
“62,000 ดอลลาร์คือระดับสำคัญของผม หากเราทะลุเหนือและยึดคืน 62,000 ดอลลาร์ได้ ผมจะมองเป็นขาขึ้นมากกว่านี้มาก” เขากล่าว
Crypto Ed ได้เสนอรูปแบบราคา Bitcoin จากเดือนสิงหาคม 2023 เพื่อเป็นแนวทางในการคาดการณ์ทิศทางของตลาดในอนาคต ในช่วงเวลาดังกล่าว ราคา Bitcoin เคยลดลงแตะระดับต่ำสุดที่ 25,000 ดอลลาร์ ก่อนที่จะพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงปลายไตรมาสที่ 4 ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่ารูปแบบนี้อาจเกิดขึ้นซ้ำอีกครั้งในอนาคตอันใกล้นี้
นอกจากนี้นักเทรด Josh Rager ก็มีความคิดเห็นที่คล้ายคลึงกัน คราวนี้เป็นเพราะพฤติกรรมของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในช่วงที่ Bitcoin พุ่งทะยานครั้งก่อนในปี 2020
“หุ้นเกือบจะอยู่ในระดับสูงสุดตลอดกาล นั่นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในปี Bitcoin halving ครั้งล่าสุดที่เข้าสู่เดือนกันยายน 2020” เขาบอกกับผู้ติดตาม X
“หุ้นทำจุดสูงสุดใหม่ในช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2020 จากนั้นก็ลดลงมากกว่า -10% ในเดือนกันยายน หวังว่าผลลัพธ์ในเดือนกันยายนจะแตกต่างออกไป หรือ BTC และตลาดคริปโตจะรู้สึกเจ็บปวด”
Ichimoku เน้นย้ำถึงการต่อสู้ด้านราคาของ BTC
ผู้มองโลกในแง่ดีมากกว่าคือ นักเทรดนาม Titan of Crypto ซึ่งในการอัปเดตของเขาเองแนะนำว่าตัวบ่งชี้ Ichimoku Cloud อาจเป็นกุญแจสำคัญสู่ความแข็งแกร่งในระยะสั้น
“ถ้า Bitcoin สามารถกลับมายืนเหนือราคา 59,600 ดอลลาร์ และทะลุผ่านจุดตัดของก้อนเมฆ Ichimoku ได้ ก้อนเมฆนี้จะเปลี่ยนบทบาทจากแนวต้านกลายเป็นแนวรับ” เขาเขียน พร้อมแนบกราฟประกอบคำอธิบาย
“สิ่งนี้อาจกระตุ้นให้เกิดการเคลื่อนไหวขึ้น”
เหลือเวลาอีกไม่ถึง 48 ชั่วโมงจนกว่าจะสิ้นเดือน Bitcoin จะปิดเดือนสิงหาคมลดลงประมาณ 8% อย่างไรก็ตาม ก็ฟื้นตัวขึ้นเกือบ 40% จากระดับต่ำสุดที่ 45,500 ดอลลาร์ในวันที่ 5 สิงหาคม
ที่มา: cointelegraph