ดูเหมือนว่าหลังจากที่ผลิตภัณฑ์การลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซีได้มีกระแสเงินไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง ทว่าในตอนนี้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้กลับมีเงินไหลออกจำนวนมากอีกครั้ง หลังรายงานเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ออกมาดีเกินคาด
โดยผลิตภัณฑ์การลงทุนในคริปโตมีการไหลออกของเงินรวมมูลค่าถึง 305 ล้านดอลลาร์ในสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังได้รับผลกระทบจาก “ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเกินคาด” ของสหรัฐฯ ตามรายงานล่าสุดของ CoinShares
ในรายงานระบุว่า ในช่วงวันที่ 24-31 สิงหาคมที่ผ่านมา นักลงทุนจากสหรัฐฯ ได้เทขายผลิตภัณฑ์คริปโตมากที่สุด โดยมียอดไหลออกสูงถึง 318 ล้าน ดอลลาร์ ในขณะที่เยอรมนีและสวีเดนมียอดไหลออกเล็กน้อยที่ 7.3 ล้าน และ 4.3 ล้านดอลลาร์ ตามลำดับ
การไหลออกจำนวนมากนี้ เกิดมาจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เมื่อวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่ดัชนีราคา Personal Consumption Expenditures (PCE) เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนดังกล่าว ซึ่งเพิ่มขึ้น 2.5% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
โดยการใช้จ่ายของผู้บริโภคถือเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และทำให้ PCE ถือเป็นหนึ่งในมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่นักลงทุนให้ให้ความสำคัญ ซึ่งคาดว่าจะนำไปสู่การลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบกว่าสี่ปี
แม้ว่าตลาดจะคาดการณ์ว่าจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน แต่รายงาน PCE ได้ส่งสัญญาณลดอัตราดอกเบี้ยลง 24 จุดพื้นฐาน และลดโอกาสที่จะลดลงถึง 50 จุดพื้นฐาน
ซึ่งในรายงานล่าสุดของ CoinShares ยังระบุว่า ผลิตภัณฑ์การลงทุนที่อ้างอิงกับ Bitcoin มียอดไหลออกสูงสุดในสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ 319 ล้านดอลลาร์ ในขณะที่ผลิตภัณฑ์การลงทุนแบบ Short Bitcoin มียอดไหลเข้าเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกันกว่า 4.4 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นยอดไหลเข้าที่สูงที่สุดตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ในขณะที่ทางด้านของผลิตภัณฑ์การลงทุนใน Ethereum เองก็มียอดไหลออก 5.7 ล้านดอลลาร์ ติดลมต่อเนื่องจากแนวโน้มการลดลง แม้ว่าจะมีการเปิดตัว Ethereum ETF ในสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคมที่ผ่านมาก็ตาม
ที่มา: Cointelegraph