ราคาหุ้นของบริษัทเทคโนโลยีอย่าง Microstrategy เพิ่มขึ้นกว่า 1,000% ภายในเวลา 4 ปี และราคาหุ้นของบริษัทก็เติบโตขึ้นแบบก้าวกระโดด นับตั้งแต่ที่บริษัทนำกลยุทธ์ Bitcoin มาใช้
บริษัท Microstrategy ของ Michael Saylor กำลังกลายเป็นบทพิสูจน์เรื่องราวทางการเงินขององค์กรที่ประสบความสำเร็จ ในทศวรรษนี้
ราคาหุ้น MSTR เพิ่มขึ้นมากกว่า 10 เท่า นับตั้งแต่บริษัทเริ่มเพิ่ม Bitcoin เพิ่มเข้าไปในงบดุล เมื่อเดือนสิงหาคม 2020
Microstrategy สามารถทำผลงานได้ดีกว่าบริษัททุกแห่งใน S&P 500 ถือเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่าที่ Bitcoin เคยทำได้
ในขณะเดียวกัน หุ้น Magnificent Seven ได้แก่ Apple, Microsoft, Amazon, Alphabet (Google), Meta Platforms (Facebook), Nvidia และ Tesla ก็สามารถทำผลงานได้ดีกว่า S&P 500 ถึง 96%
ตามข้อมูลของ River Financial ระบุว่า Microstrategy ถือครอง BTC อยู่จำนวน 252,220 BTC คิดเป็นมูลค่า 16,000 ล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน ซึ่งทำให้บริษัท Microstrategy กลายเป็นบริษัทผู้ถือครอง Bitcoin รายใหญ่เป็นอันดับ 5
ทั้งนี้ บริษัทที่นำโดย Michael Saylor ได้เลือกใช้บริการดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลของ Coinbase Institutional เพื่อเก็บรักษาเหรียญดิจิทัลของบริษัท
ก่อนที่ บริษัท Microstrategy จะเริ่มสะสมบิตคอยน์ มูลค่าตลาดของบริษัทยู่ที่เพียง 1.4 พันล้านดอลลาร์ในเดือนสิงหาคม 2020 แต่หลังจากที่บริษัทเริ่มสะสมบิตคอยน์ มูลค่าตลาดของบริษัท Microstrategy ได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็น 3 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นสูงถึง 2,000% เพียงแค่เพิ่ม Bitcoin เข้าไปเป็นสินทรัพย์สำรอง
การเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ทางการเงิน
ในการสัมภาษณ์ครั้งล่าสุด Michael Saylor อธิบายว่า บริษัทกำลังเปลี่ยนแปลงความคิดแบบเดิมๆ ในด้านการเงิน
Michael Saylor กล่าวว่า “ความคิดทั่วไปคือ ยิ่งคุณขายหุ้นมากขึ้นเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งทำให้หุ้นของคุณลดค่าลงมากขึ้นเท่านั้น บริษัทหลายแสนแห่งมีสินทรัพย์ในงบดุลที่ทำให้มูลค่าของหุ้นลดลง ในขณะที่ Bitcoin เป็นสินทรัพย์หลักที่เพิ่มมูลค่าได้ ยิ่งเราออกหุ้นหรือระดมทุนได้มากเท่าไร เราก็ยิ่งเพิ่มมูลค่าได้มากขึ้นเท่านั้น”
บริษัทอื่นๆ กำลังจับตามองความสำเร็จของบริษัท Microstrategy ซึ่งในเอเชียตะวันออก บริษัท VC ญี่ปุ่น อย่างบริษัท Metaplanet ก็ได้ขายตราสารหนี้แปลงสภาพเพื่อนำมาซื้อ Bitcoin เช่นกัน
นี่คืออนาคตของการเงิน หรือเป็นเพียงโชคดี ? เวลาเท่านั้นที่จะบอกได้ แต่ตอนนี้แผนการของ Microstrategy กำลังประสบความสำเร็จ”
ที่มา : thedefiant.