จะเห็นได้ว่าในที่สุด สัญญาณการฟื้นตัวของตลาด คริปโตก็เกิดขึ้นแล้ว โดยเหรียญมีมตัวท็อปอย่าง Shiba Inu ได้ฉายแววโดดเด่นกว่าโปรเจกต์อื่น ๆ โดยพุ่งขึ้นกว่า 27% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่เหรียญมีมชั้นนำอย่าง Dogecoin ก็ขึ้นมา 10% ในเวลาไล่เลี่ยกัน
ตลาดฟื้นตัว เทรดเดอร์แห่ลงทุน “เหรียญ Meme”
ดูเหมือนว่ากระแสเหรียญมีมที่กลับมาอีกครั้ง ได้ทำให้เทรดเดอร์พากันมองหาเหรียญคริปโตน่าลงทุนตัวต่อไปที่มีศักยภาพอันแข็งแกร่งสร้างผลกำไรได้มหาศาล ทว่าตัวของเหรียญมีมถ้าเป็นช่วงตลาดขาลงก็ไม่ค่อยน่าซื้อนัก
อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่ตอนนี้ตลาดกลับมาฟื้นตัวเข้าสู่ช่วงกระทิงอีกครั้ง จึงเป็นสาเหตุที่เงินทุนหลั่งไหลเข้ามาในตลาดเหรียญมีมอย่างมหาศาล โดยมี Shiba Inu เป็นอันดับ 1 ในบรรดาคริปโตตัวท็อป 100 สกุล ส่วนเหรียญที่มีการเพิ่มขึ้นสูงสุดอันดับ 2 และ 3 ก็เป็นเหรียญมีมเช่นกัน ได้แก่ Bonk และ Brett
แต่คำถามที่สำคัญคือ เหรียญมีมจะสามารถรักษาแนวโน้มเชิงบวกนี้ไว้ได้หรือไม่?
จากภาพรวม คำตอบอาจเป็น “ใช่” อย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากเดือนกันยายนมักเป็นเดือนที่ตลาดคริปโตอยู่ในช่วงขาลง ในขณะที่ 3 เดือนที่เหลือ หรือไตรมาสที่ 4 มักจะมีแนวโน้มเป็นขาขึ้นตามสถิติของข้อมูลที่ผ่านๆ มา
อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์ไม่ควรพิจารณาจากสถิติในอดีตเพียงอย่างเดียว แต่ควรมองมายังการเพิ่มขึ้นของสภาพคล่องทั่วโลก ซึ่งเกิดจากการผ่อนคลายนโยบายการเงินในประเทศต่างๆ เช่น สหรัฐอเมริกาและจีน โดยนี่ถือเป็นสัญญาณเชิงบวกสำหรับสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงอย่างสกุลเงินดิจิทัล เนื่องจากสภาพคล่องที่เพิ่มขึ้นจะทำให้เกิดความต้องการมากขึ้น และส่งผลให้ราคาสูงขึ้นตามไปด้วย โดยหากสถานการณ์เป็นไปตามที่คาด เราจะได้เห็นการเติบโตของเหรียญมีมอย่างแน่นอน
ด้านนักวิเคราะห์อย่าง Crypto Dream ได้พูดถึง SHIB ว่าเป้าหมายต่อไปของ SHIB คือราคาที่จุดสูงสุดตลอดกาลก่อนหน้านี้ โดยตั้งข้อสังเกตว่า SHIB เพิ่งดีดตัวขึ้นจากแนวรับทางเศรษฐกิจ ซึ่งอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของการเพิ่มขึ้นของราคาในอนาคต
ขณะที่นักวิเคราะห์อีกรายอย่าง Zer0 ได้จับตามายัง Dogecoin ด้วยเขาได้เตือนนักเทรดที่คิดว่าราคา Dogecoin จะไม่ขยับไปไหน และจะไม่ทำ ATH ใหม่ ซึ่งนักเทรดพวกนั้นอาจจะต้องผิดหวังเพราะราคาของมันจะดีดขึ้นอย่างรุนแรง โดยเขากล่าวว่ากราฟของ Dogecoin กำลังทำรูปแบบคล้ายกับช่วงก่อนราคาพุ่งในปี 2021
ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าขณะนี้เกิดความรู้สึกเชิงบวกขึ้นในตลาดคริปโตโดยรวม ทำให้มูลค่ารวมของอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 2.7% ซึ่งเป็นจุดสูงสุดในรอบเดือนกว่าๆ โดยแม้จะยังต้องรอดูว่าเหรียญมีมจะครองตลาดอย่างเต็มตัวเหมือนที่เราเห็นในไตรมาสแรกของปี 2024 หรือไม่ แต่สิ่งที่แน่นอนก็คือ ตลาดคริปโตกำลังมีแนวโน้มที่ดีมากในตอนนี้ และหากฤดูกาลเหรียญมีมเป็นไปตามที่เราคาดไว้ อีกโปรเจกต์คริปโตที่น่าจับตามองคือ Pepe Unchained
ตัวของ Pepe Unchained ถือว่าเป็นโปรเจกต์ที่น่าสนใจมาก ๆ ด้วยยอดระดมทุนมากกว่า 16 ล้านดอลลาร์ อีกทั้งยังเป็นโทเค็นยูทิลิตี้สุดล้ำ
$PEPU จะเป็นเหรียญดาวเด่นตัวถัดไป ด้วยศักยภาพเติบโต 100X ?
ดูเหมือนตอนนี้ Pepe Unchained จะเป็นที่ต้องการอย่างล้นหลามในตลาด นักลงทุนต่างเร่งทำการเข้าซื้อโทเค็นก่อนที่มันจะถูกลิสต์ขึ้นกระดานเทรด โดยขณะนี้มันมีเงินทุนหลั่งไหลเข้ามาแล้วกว่า 16 ล้านดอลล่าร์
ซึ่งนี่ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เพราะ Pepe Unchained กำลังพัฒนาบล็อกเชน Ethereum Layer 2 ที่มาพร้อมธีม Pepe เป็นโปรเจกต์แรกของโลก ซึ่งคาดว่าจะมีความเร็วสูงกว่า Ethereum ถึง 100 เท่า และมีค่าธรรมเนียมถูกกว่ามาก
จากที่กล่าวมาทำให้ “Pepe Chain” อาจจะกลายเป็นประตูเข้าสู่โดเมนเหรียญมีมใหม่ของ Ethereum โดยกำหนดการเปิดตัว Pepe Chain จะถูกวางไว้ในไตรมาสที่ 4 และคาดว่าจะมีกิจกรรมบนเชนเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล
ยิ่งไปกว่านั้น ทีมงานยังมีแผนที่จะมอบเงินสนับสนุนแก่นักพัฒนา เพื่อกระตุ้นการเติบโตของระบบนิเวศ
ทั้งนี้ Pepe Chain จะมาพร้อมสะพานเชื่อมกับ Ethereum แบบเฉพาะตัว รวมถึง block explorer , กลไกการ staking และกระดานแลกเปลี่ยนแบบกระจายศูนย์ (DEX)ซึ่งเป็นคุณสมบัติทั้งหมดที่บล็อกเชนชั้นนำนั้นมี แต่ต่างกันเพียงแค่ตรงที่ Pepe Chain โฟกัสที่เหรียญมีมโดยเฉพาะ
คอนเซ็ปต์ต่าง ๆ เหล่านี้ได้ดึงดูดความสนใจจากนักวิเคราะห์หลายราย หนึ่งในนั้นคือ Umar Khan จากช่อง 99Bitcoins ที่แสดงความเห็นว่า Pepe Unchained อาจจะราคาพุ่งขึ้น “100 เท่า”
ในขณะเดียวกัน Austin H4ilton ก็พูดถึง Pepe Unchained ว่าเป็น “การเปิดตัวเหรียญมีมครั้งใหญ่ที่สุดตลอดกาล”
สำหรับผู้ที่ต้องการจะซื้อโทเค็น $PEPU อาจต้องตัดสินใจให้ดี เพราะราคาจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นตลอดช่วงพรีเซล ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปศึกษาข้อมูลได้ที่ เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
บทความนี้เป็นเพียงการให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโปรเจกต์เหรียญคริปโตเคอร์เรนซีเท่านั้น ทางผู้เขียนไม่ได้มีเจตนาในการแนะนำหรือเชิญชวนให้ลงทุนแต่อย่างใด คริปโตเคอร์เรนซี และ โทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
บทความนี้เป็นบทความสปอนเซอร์