ข้อมูลล่าสุดบนเครือข่ายบล็อกเชนเผยว่า Vitalik Buterin ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum (ETH) ยังคงเดินหน้าขาย ETH อย่างต่อเนื่อง แม้ราคาจะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยล่าสุดราคาของ ETH ได้ปรับตัวลดลง 2% จากระดับแนวต้านในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
การเทขาย ETH อย่างต่อเนื่องของ Vitalik
ข้อมูลจาก SpotOnChain เปิดเผยว่า ในช่วง 12 วันที่ผ่านมา Vitalik Buterin ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum ได้โอนเหรียญจำนวน 1,300 ETH ไปยังแพลตฟอร์ม Paxos โดยมีราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ $2,581 ต่อเหรียญ คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้นประมาณ 3.35 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งการโอนดังกล่าวสร้างความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจท่ามกลางสถานการณ์ตลาดคริปโตในปัจจุบัน
นอกจากนี้ พบว่ากระเป๋าเงินของ Vitalik ที่มีรหัสขึ้นต้นว่า “0x556…” ได้ทำการโอนเหรียญอีก 649 ETH ซึ่งมีมูลค่าราว 1.72 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไปยัง Paxos ภายในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา การโอนนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ราคาของ ETH มีการปรับตัวผันผวนในระยะสั้นและกลับมาทรงตัวในช่วงสัปดาห์ก่อน ส่งผลให้นักลงทุนต่างจับตาดูทิศทางการเคลื่อนไหวของ Vitalik อย่างใกล้ชิด
ย้อนกลับไปเมื่อต้นเดือนกันยายน กระเป๋าเงิน “0x556” ของ Vitalik ได้รับการโอน 1,300 ETH มูลค่าประมาณ 3.21 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากกระเป๋าเงินรหัส “0xd04” ในวันที่ 19 กันยายน ซึ่งกระเป๋าเงินนี้เคยได้รับการโอนเหรียญจำนวน 70,000 ETH จาก Vitalik ในปี 2022
ราคา Ethereum (ETH) กำลังเผชิญหน้าแนวต้าน
แม้ว่าในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ETH จะแสดงความแข็งแกร่งอย่างชัดเจน แต่ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ราคากลับปรับตัวลดลง 1.34% และปัจจุบันซื้อขายอยู่ที่ระดับประมาณ $2,626 ซึ่งการปรับฐานนี้ทำให้นักลงทุนเริ่มกังวลถึงความสามารถของ ETH ในการทำจุดสูงสุดใหม่ได้อีกครั้ง
นักวิเคราะห์คริปโต Daan Crypto ด้แสดงความคิดเห็นว่า “ETH ยังไม่สามารถสร้างจุดสูงสุดใหม่ได้ ในขณะที่ BTC สามารถทำได้สำเร็จแล้ว” เขาเสริมว่าตลาดฝั่งกระทิงของ ETH จำเป็นต้องพยายามมากขึ้น เพื่อยืนยันการกลับตัวของแนวโน้มขาขึ้น โดยเงื่อนไขสำคัญคือราคาของ ETH จะต้องสามารถทะลุผ่านเส้น EMA 200 วัน และมีการเคลื่อนไหวเหนือระดับราคา $2,800 จึงจะถือเป็นการยืนยันแนวโน้มขาขึ้นในระยะยาว
การปรับฐานราคา ETH ในขณะนี้เกิดขึ้นท่ามกลางการปรับตัวลดลงของตลาดคริปโตในภาพรวม เนื่องจากนักลงทุนกำลังจับตาดูสถานการณ์การเปิดเผยข้อมูลแรงงานของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้อย่างใกล้ชิด ซึ่งข้อมูลดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อภาพรวมของเศรษฐกิจและการตัดสินใจของนักลงทุนในการจัดสรรสินทรัพย์ดิจิทัลต่อไป
ที่มา:cointruk