<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

รู้ทัน! ธุรกิจขายตรงกับแชร์ลูกโซ่ : แล้วคริปโตจะถูกเหมารวมด้วยไหม?

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ช่วงนี้มีดราม่าร้อนแรงเกี่ยวกับธุรกิจขายตรง Icon Group ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมออนไลน์จนเกิดคำถามใหญ่ขึ้นมาว่า การทำธุรกิจขายตรงนั้นแท้จริงแล้วมีความต่างจากแชร์ลูกโซ่แค่ไหน? และสำหรับวงการคริปโตเคอร์เรนซีที่กำลังเป็นที่นิยมในยุคดิจิทัล หลายคนอาจเริ่มกังวลว่าตัวของคริปโตจะถูกเหมารวมกับพวกแชร์ลูกโซ่หรือการหลอกลวงเช่นนี้หรือไม่ วันนี้เราจะมาแยกแยะประเด็นให้ชัดเจนและโยงไปถึงโลกคริปโตเพื่อให้ทุกคนเข้าใจอย่างถ่องแท้

ธุรกิจขายตรง vs แชร์ลูกโซ่: ทำไมถึงเกิดความสับสน?

ธุรกิจขายตรงถูกกฎหมาย (Direct Selling) คือรูปแบบการทำธุรกิจที่บริษัทจำหน่ายสินค้าหรือบริการผ่านเครือข่ายผู้จำหน่ายอิสระ โดยผู้จำหน่ายจะได้รายได้จากการขายสินค้าและการสร้างทีมตัวแทนจำหน่าย แต่แชร์ลูกโซ่ (Ponzi Scheme) กลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะแทนที่จะเน้นการขายสินค้าจริงๆ แชร์ลูกโซ่มักใช้การระดมทุนหรือการหลอกลวงด้วยการหาสมาชิกใหม่เพื่อเข้ามาจ่ายเงินให้สมาชิกเก่า ไม่ยั่งยืนและมีจุดจบด้วยการล่มของระบบ

สำหรับสาเหตุที่ทำให้หลายคนสับสนนั้น เพราะว่าในบางครั้งแชร์ลูกโซ่มักใช้โมเดลที่ดูคล้ายกับธุรกิจขายตรง เช่นการเชิญชวนให้หาสมาชิกใหม่หรือมีค่าธรรมเนียมแรกเข้า แต่แชร์ลูกโซ่ไม่เคยมีสินค้าและบริการที่เป็นของจริง หรือไม่ก็เป็นของที่ไม่ได้มาตรฐาน จึงทำให้การขยายเครือข่ายเป็นเพียงการหลอกลวง

ทั้งนี้ Ponzi Scheme กับ Pyramid Scheme เป็นคำที่มักจะถูกเข้าใจผิดกันเสมอโดยความแตกต่างของ Pyramid Scheme กับ Ponzi Scam จะแตกต่างกันตรงที่คนที่อยู่ในวงรู้ตัวอยู่แล้วว่าเป็นการหลอกลวงและพยายามหารายได้เพิ่มเติมจากการเกณฑ์สมาชิกใหม่เข้ามาและกินส่วนแบ่งกันเป็นขั้นบันไดโดยนำเงินที่ได้จากสมาชิกใหม่ไปจ่ายให้หน้าเก่า

คริปโตเกี่ยวข้องอย่างไร?

เมื่อเราพูดถึงคริปโตเคอร์เรนซี หลายคนอาจเกิดความกังวลว่าการลงทุนในคริปโตนั้นเป็นแชร์ลูกโซ่หรือไม่ โดยเฉพาะเมื่อมีข่าวการหลอกลวงในวงการนี้ เช่น การสร้างเหรียญปลอม หรือโครงการระดมทุน (ICO) ที่หลอกให้ลงทุนแล้วหนีหาย

ต้องเข้าใจก่อนว่า คริปโตเคอร์เรนซี ไม่ใช่แชร์ลูกโซ่โดยตัวมันเอง เพราะคริปโตนั้นเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีเทคโนโลยีบล็อกเชนรองรับอย่างโปร่งใส มันสามารถตรวจสอบได้ว่ามีการทำธุรกรรมจริง หรือมีการสร้างเหรียญเพื่อการแลกเปลี่ยนที่มีมูลค่าเชิงเศรษฐกิจ เช่นในกรณีของ Bitcoin

แต่สิ่งที่ทำให้คริปโตถูกเหมารวมกับแชร์ลูกโซ่ ก็มาจากการที่ Scam Projects หรือโปรเจกต์คริปโตหลอกลวงนั้นเกิดขึ้นมากมาย โครงการเหล่านี้มักใช้ชื่อ “คริปโต” เพื่อดึงดูดคนที่ไม่รู้เรื่องบล็อกเชนอย่างแท้จริง หลายโครงการเสนอผลตอบแทนสูงลิ่วในเวลาอันสั้น และเน้นให้ผู้ลงทุนชักชวนคนอื่นเข้ามาร่วมลงทุน

ดราม่าที่เกิดขึ้นกับ Icon Group เกิดจากประเด็นความไม่ชัดเจนในโมเดลธุรกิจ ซึ่งทำให้ผู้คนตั้งคำถามว่าบริษัทนี้เป็นขายตรงที่ถูกกฎหมายหรือเป็นแชร์ลูกโซ่ เนื่องจากมีหลายครั้งที่บริษัทขายตรงอาจมีลักษณะบางอย่างที่คล้ายแชร์ลูกโซ่ เช่นการเน้นการหาสมาชิกมากกว่าการขายสินค้า จึงเป็นสาเหตุให้เกิดข้อวิจารณ์

ถ้าโยงมาที่วงการคริปโต สิ่งที่คล้ายกับ Icon Group คือความสับสนในโครงการที่ไม่ชัดเจน เมื่อคุณไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าบริษัทนั้นเน้นขายสินค้าจริงๆ หรือแค่หาสมาชิกเพิ่ม โอกาสในการตกเป็นเหยื่อก็สูงขึ้น เช่นเดียวกับการลงทุนในคริปโต หากไม่เข้าใจเทคโนโลยีบล็อกเชนหรือโมเดลธุรกิจของเหรียญ คุณก็อาจถูกหลอกได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเหรียญมีมที่เกิดขึ้นมาตามแพลตฟอร์มอย่าง pump.fun ที่ใช้แค่เก็งกำไรเพียงอย่างเดียว

หนึ่งในเครื่องมือการตลาดที่ทำให้คริปโตถูกมองเหมือนแชร์ลูกโซ่ก็คือ Referral Links ซึ่งเป็นลิงก์เชิญชวนให้เข้าร่วมแพลตฟอร์มหรือโครงการต่าง ๆ โดยผู้ที่แชร์ลิงก์จะได้รับค่าคอมมิชชันหรือผลตอบแทนตามจำนวนผู้เข้าร่วม อย่างไรก็ตามโครงการส่วนใหญ่มีความโปร่งใสและชัดเจน เช่น แพลตฟอร์มกระดานแลกเปลี่ยนคริปโตที่มีชื่อเสียง การแชร์ลิงก์ Referral จึงเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การตลาดที่ถูกต้องและไม่หลอกลวง

แต่ในทางกลับกันโปรเจกต์ Scam ที่หลอกให้ผู้ใช้แชร์ลิงก์ Referral เพื่อดึงดูดสมาชิกใหม่โดยสัญญาว่าจะให้ผลตอบแทนสูง ๆ มักมีลักษณะคล้ายแชร์ลูกโซ่ ซึ่งทำให้ผู้คนสับสนและไม่สามารถแยกแยะได้ชัดเจนว่าเป็นการลงทุนที่ถูกต้องหรือไม่

ทำอย่างไรไม่ให้คริปโตถูกเหมารวม ?

เพื่อไม่ให้ คริปโตเคอร์เรนซี ถูกมองว่าเป็นแชร์ลูกโซ่หรือตกเป็นเหยื่อการหลอกลวง นักลงทุนควรทำความเข้าใจว่าโปรเจกต์นั้นๆ ใช้บล็อกเชนในการดำเนินงานอย่างไร มีฟีเจอร์การทำงานหรือบริการที่เป็นของจริงหรือไม่ และสามารถตรวจสอบได้หรือเปล่า 

แต่ในกรณีของ Icon Group สิ่งที่ผู้บริโภคควรระวังคือ การสอบถามข้อมูลเชิงลึก เช่น การจดทะเบียนธุรกิจ การขายสินค้าที่เป็นรูปธรรม และการจ่ายผลตอบแทนจริง ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการป้องกันไม่ให้เราตกอยู่ในวงล้อมของแชร์ลูกโซ่ 

สรุป : ธุรกิจขายตรงและแชร์ลูกโซ่มีความแตกต่างที่สำคัญ และวงการคริปโตเองก็อาจถูกเหมารวมจากการหลอกลวงที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ดังนั้น การตรวจสอบข้อมูลให้ชัดเจนก่อนการลงทุนทั้งในธุรกิจขายตรงหรือคริปโตเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณไม่ได้ตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวง และเพื่อป้องกันไม่ให้คริปโตเคอร์เรนซีที่มีศักยภาพถูกมองในแง่ลบจากการกระทำของ Scam Projects 

ภาพ : Finance magnates

การลงทุนมีความเสี่ยงนักลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้พร้อมก่อนเริ่มการลงทุน