ดูเหมือนว่ากองทุน Spot Bitcoin ETF ในสหรัฐฯ จะบรรลุเป้าหมายสำคัญอีกครั้ง หลังตลาดมีมูลค่าการไหลเข้าของกองทุนสุทธิ (net flows) แตะ 20 พันล้านดอลลาร์ แม้ว่าราคาของ Bitcoin จะยังคงอยู่ในแนวโน้มขาลงเป็นเวลา 7 เดือนก็ตาม
โดยกองทุน Spot Bitcoin ETFs ของสหรัฐฯ สามารถทะลุยอดสุทธิที่ 20 พันล้านดอลลาร์ได้เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม ซึ่งถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญ
โดย Eric Balchunas นักวิเคราะห์ ETF อาวุโสจาก Bloomberg กล่าวว่ามูลค่าการไหลเข้าของกองทุนนี้เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่เติบโตได้ยากที่สุดในโลกของ ETF ทว่ากองทุน Bitcoin ETF เพิ่งบรรลุยอดนี้หลังจากมียอดไหลเข้ากว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ในสัปดาห์ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการไหลเข้าของ ETF อย่างต่อเนื่อง ราคาของ Bitcoin ยังคงต่ำกว่าระดับ 68,300 ดอลลาร์ตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยข้อมูลจาก Cointelegraph ระบุว่า Bitcoin ยังคงอยู่ในแนวโน้มขาลงตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ทว่าการที่กองทุน Bitcoin ETFs สามารถบรรลุยอดสุทธิ 20 พันล้านดอลลาร์ภายในเวลาเพียง 10 เดือนนั้น บ่งบอกถึงความสนใจของนักลงทุนที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน โดยเปรียบเทียบกับกองทุนทองคำ (Gold ETFs) ซึ่งใช้เวลาถึง 5 ปีจึงจะบรรลุเป้าหมายนี้
โดยการไหลเข้าของ Bitcoin ETF เริ่มกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม หลังจากที่มียอดไหลออกสุทธิติดต่อกันถึง 3 วัน โดยในวันที่ 11 ตุลาคมเพียงวันเดียวมีการไหลเข้ารวมกันกว่า 253 ล้านดอลลาร์ และในวันที่ 16 ตุลาคมยอดไหลเข้ามากกว่า 458 ล้านดอลลาร์ ตามข้อมูลจาก Farside
ซึ่งการไหลเข้าจำนวนมากนี้ ทำให้ยอดถือครอง Bitcoin ETF อยู่ที่ 65.4 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็น 4.9% ของอุปทาน Bitcoin ที่หมุนเวียนอยู่ในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางรายคาดการณ์ว่าราคา Bitcoin อาจฟื้นตัวและเริ่มเข้าสู่ช่วงขาขึ้นในช่วงสามเดือนหลังจากนี้ โดยมีเป้าหมายราคาอยู่ที่ 92,000 ดอลลาร์ ซึ่งการคาดการณ์นี้อ้างอิงจากรูปแบบทางประวัติศาสตร์และผลตอบแทนเฉลี่ยของ Bitcoin ในไตรมาสสุดท้ายของปี นอกจากนี้ ในปีที่เกิดการ Halving ของ Bitcoin เช่นปี 2024 ที่จะถึงนี้ Bitcoin มักจะมีการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นเวลาสามเดือน
ทั้งนี้ บทความดังกล่าวเป็นเพียงแค่การเสนอข่าวเท่านั้น การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนอาจเสียเงินทั้งจำนวนได้ ดังนั้นผู้ลงทุนควรที่จะศึกษาและประเมินความเสี่ยงก่อนที่จะลงทุนในสินทรัพย์ใดๆ อยู่เสมอ
ที่มา: Cointelegraph