<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

5 ตัวชี้วัดส่งสัญญาณ ! ราคา Bitcoin พร้อมไปต่อ ลุ้นทำ All-Time-High  ทะลุ $73,800

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ในขณะที่ Bitcoin (BTC) กลับมาทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่อง แนวโน้มการทำลายสถิติราคาสูงสุดใหม่จึงอยู่ใกล้เพียงเอื้อมเท่านั้น เห็นได้จากปัจจัยสำคัญที่บ่งชี้แนวโน้มขาขึ้น ทั้งจากตัวชี้วัดทางด้านเทคนิค กระแสเงินไหลเข้ากองทุน ETFs ของ Bitcoin รวมถึงความเชื่อมั่นของตลาด โดยเฉพาะในช่วงที่ใกล้จะถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2024 ซึ่งอาจเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้ราคา BTC ทำจุดสูงสุดใหม่ 

1. Donald Trump ชนะการเลือกตั้ง 

เป็นที่ทราบกันดีว่าการเลือกตั้งที่กำลังใกล้เข้ามา  Donald Trump มีสิทธิเป็นไปได้สูงมากที่จะกลายเป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง โดยตัวเขานั้นก็เป็นผู้ที่ออกตัวว่าสนับสนุนวงการคริปโตเคอร์เรนซี ทำให้หลายฝ่ายคาดเดาว่าถ้าหาก Trump ชนะแล้วราคาของ Bitcoin อาจพุ่งทะยานไปได้ถึง $100,000 ซึ่งนั่นยังไม่รวมถึงนโยบายการเงินต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องซึ่งคาดว่าจะมีการปรับเปลี่ยนเมื่อ Trump ได้นั่งเก้าอี้อีกครั้ง 

2. เงินทุนไหลเข้ากองทุน Bitcoin ETF อย่างมหาศาล

ตัวชี้วัดที่สองคือ การที่กองทุน Bitcoin ETFs มีเงินไหลเข้ามาเป็นจำนวนมากกว่า $2.3 หมื่นล้าน นับตั้งแต่มีการเปิดให้ซื้อขายกันมาในช่วงต้นปี และความต้องการเหล่านั้นก็มีเพิ่มขึ้นมากทุกชั่วขณะ ถึงขนาดที่เมื่อ 5 วันที่ผ่านมามีเงินไหลเข้ามามากกว่า 2.1 พันล้านดอลลาร์ โดยมีกองทุนของ IBIT ของ  BlackRock เป็นผู้นำในตลาดดังกล่าวด้วยจำนวนเงินทุนที่ไหลเข้ามากถึง $642.9 ล้าน และด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้หลายคนเชื่อมั่นว่าราคาของ Bitcoin จะขยับตัวตามความต้องการของนักลงทุน 

3. ดัชนี SOPR ของผู้ถือ Bitcoin ระยะสั้นพลิกกับมาเป็นขาขึ้น 

ข้อมูลจาก CryptoQuant แพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูลคริปโตชื่อดัง เปิดเผยว่านับตั้งแต่ที่ Bitcoin ทำราคาทะลุ $70,000  ผู้ถือ Bitcoin กว่า 94% ก็ถูกเปลี่ยนสถานะให้อยู่ในโหมดกำไร แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เกิดวิกฤตการเทขายแต่อย่างใด โดยดัชนี SOPR ที่ใช้ในการวิเคราะห์ว่านักเทรดระยะสั้นทำกำไรหรือไม่เมื่อเทียบกับตอนที่ซื้อมา ได้แสดงผลออกมาเป็นที่น่าพอใจ เพราะปัจจุบันดัชนีดังกล่าวอยู่ที่ 1.017 และมีช่องว่างให้เติบโตได้อีก ซึ่งถ้าหากทะลุเกิน 1.03% ก็จะหมายความว่าตลาดเกิดความร้อนแรงมากเกินไปแล้วและเราควรต้องเฝ้าระวัง

4. สัญญา Futures พุ่งทะยานเป็นประวัติการณ์

ตัวชี้วัดถัดมาคือ Bitcoin futures open interest (OI) ที่มีจำนวนมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อ้างอิงตามข้อมูลจาก Coinglass พบว่าเมื่อวันที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมาขณะที่ Bitcoin กลับไปยืนเหนือ $73,000 จำนวนการเปิด Postion ในตลาดฟิวเจอร์สก็ทำจุดสูงที่สุดนับตั้งแต่ที่เคยมีการบันทึกมา 

มูลค่าของสัญญาดังกล่าวนั้นคิดเป็นเงินมูลค่ากว่า $4.1 หมื่นล้าน หรือ 600,000 BTC แสดงให้เห็นว่านักลงทุนกำลังให้ความสนใจใน Bitcoin อย่างล้นหลาม และมีเงินใหม่ถูกอัดฉีดเข้ามาในตลาดอันเป็นผลทำให้เกิดขาขึ้นต่อไป ซึ่งหนึ่งในนักวิเคราะห์ของ CryptoQuant มองว่าถ้าความต้องการยังไม่ลดลงเราอาจจะได้เห็น Bitcoin พุ่งทะลุ $84,000 ได้ในเร็ว ๆ นี้

5. กราฟทางเทคนิคัล 

ตัวชี้วัดสุดท้ายนั้นคือ กราฟเทคนิคัล ซึ่งเมื่อมองจาก TradingView จะพบว่านับตั้งแต่เปิดการซื้อขายในสัปดาห์นี้ราคาของมันก็ได้ทะยานเฉียดสถิติสูงสุดเดิม ห่างออกไปเพียงไม่กี่ร้อยดอลลาร์เท่านั้น 

และที่น่าสนใจเลยก็คือราคาของ Bitcoin ได้ก่อตั้วขึ้นเป็นรูปแบบของ rounded bottom chart ในกราฟวัน โดยนักเทรดต่างได้ผลักดันราคาให้สูงขึ้นกว่า 71,700 ดอลลาร์ในช่วงการวันที่ 29 ตุลาคมซึ่งการปิดเทียนรายวันเหนือระดับนี้จะยืนยันการทะลุขึ้นจากรูปแบบฐานโค้งมนและนำพา BTC เข้าสู่การค้นหาราคาด้วยเป้าหมายทางเทคนิคคัลที่ 91,362 ดอลลาร์ หรือคิดเป็นมูลค่าที่จะเพิ่มขึ้นอีก 27% จากราคาปัจจุบัน

ที่มา : Cointelegraph