<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Vantard กองทุนคริปโตเหรียญมีมตัวแรกของโลก! ระดมทุนได้ 209,000 ดอลลาร์ ภายในหนึ่งสัปดาห์

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ถือเป็นสัปดาห์ที่น่าตื่นเต้นสำหรับ Vantard กองทุนติดตามราคาของเหรียญมีมกองทุนแรกในโลกคริปโต ที่ได้แรงบันดาลใจจากสินทรัพย์ทางการเงินดั้งเดิม อย่างดัชนีและ ETF โดย Vantard เป็นกองทุนที่มีการบริหารสินทรัพย์อย่างกระตือรือร้น ลงทุนและถือครองเหรียญมีมที่ดีที่สุด

หลังจากเปิดรอบระดมทุน ICO รอบ Pre-seed ไปเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม Vantard ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากผู้จัดการสินทรัพย์แบบดั้งเดิม ส่งผลให้โปรเจกต์นี้ปรากฏตัวขึ้นในตลาดอย่างน่าประทับใจ โดยสามารถระดมทุนได้มหาศาลถึง  209,000 ดอลลาร์ ภายในเวลาหนึ่งสัปดาห์ โดยมีทั้งนักลงทุน และ VC ต่างพร้อมกันเข้าร่วม

และก่อนที่จะเกิด Supercycle ของเหรียญมีม อย่างที่ใครหลายคนได้คาดการณ์ไว้ Vantard ก็มาพร้อมข้อเสนอ ผ่านโอกาสในการลงทุนเหรียญมีมที่น่าตื่นเต้น พร้อมความหลากหลายและการบริหารจัดการจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งปกติแล้วจะมีเฉพาะกับสินทรัพย์แบบดั้งเดิมที่ไม่ใช่ คริปโต นี่คือทุกสิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับ Vantard

Vantard คืออะไร และทำงานอย่างไร? 

Vantard คือ กลุ่มของเหรียญมีมที่ใหม่ และดีที่สุดในตลาด รวมถึงเป็นเหรียญมีมระดับ Blue-chip, เพชรเม็ดงาม, และ Vaporware 1000x

ด้วยการคัดเลือกเหรียญที่หลากหลาย และมีความเสี่ยงที่สมดุล ผ่านการคัดสรรและได้รับการตรวจสอบเป็นประจำ โดยนักเทรดที่มีประสบการณ์ Vantard จึงมีศักยภาพที่จะแซงโปรเจกต์อื่น ๆ ในขณะที่ตลาดเหรียญมีมกำลังทำราคาพุ่งขึ้น ซึ่งตลาดเหรียญมีมทำราคาพุ่งขึ้นเกือบ 300% ในปีนี้ ทำให้สินทรัพย์ประเภทอื่น ดูเชื่องช้าและน่าเบื่อ

แล้วกลยุทธ์หลักคืออะไร ? ง่าย ๆ เลย ซื้อและถือเหรียญมีมที่ดีที่สุด และปล่อยให้ตลาดดำเนินไป แม้ว่า Vantard จะให้ตลาดทำหน้าที่เป็นที่สร้าง และขับเคลื่อนผลตอบแทนเอง แต่โปรเจกต์ก็ยังช่วยให้นักลงทุนสามารถลงทุนในกองทุนคริปโตเต็มรูปแบบ โดยไม่ต้องใช้เวลาหลายวันไปกับการวิจัยที่ซับซ้อน

ด้วยเหตุนี้ Vantard จึงเป็นวิธีที่ง่าย และไม่ยุ่งยากในการเข้าถึงตลาดเหรียญมีมที่กำลังบ้าคลั่ง อีกทั้งโปรเจกต์ยังเตรียมพร้อมต่อการเติบโตในวงกว้างมากกว่าเหรียญมีมใด ๆ ที่เคยมีมา

นักวิจารณ์ในตลาดบางราย คาดการณ์ว่า ราคาน่าจะมีการเพิ่มขึ้นถึง 100x ภายในสิ้นปี และถ้าหากคุณเป็นคนที่คิดว่า การเติบโตของชุมชนออนไลน์ใน Vantard เป็นสิ่งสำคัญ โพสต์บนแพลตฟอร์มโซเชียล X ของโปรเจกต์ก็ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม การที่โปรเจกต์มีแนวโน้มที่จะทำราคาพุ่งขึ้น จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ

ทำไม Supercycle ของเหรียญมีม ถึงใกล้มาถึงแล้ว?

มีอยู่หลายเหตุผล โดยเหตุผลสำคัญก็คือ ภาวะเศรษฐกิจมหภาคที่เปลี่ยนไป ภาวะเงินเฟ้อสูง หลัง COVID ที่เริ่มลดลงแล้ว ปัจจุบันอัตราเงินเฟ้อต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ สภาพคล่องทั่วโลกเพิ่มขึ้น และอัตราดอกเบี้ยกำลังลดลง ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้นักลงทุนมองหาสินทรัพย์เสี่ยง เช่น เหรียญมีม มากขึ้น 

เมื่อพิจารณาการที่มันสามารถทำกำไรเหนือคริปโตอย่าง Bitcoin และ Ethereum รวมถึง DeFi อันดับต้น ๆ ได้ เหรียญมีมจึงกลายเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูง และเป็นที่ต้องการมากที่สุดในตลาด 

นอกจากนี้ เหรียญมีมยังมีชุมชนที่เข้มแข็ง และไม่ต้องพึ่งพาพื้นฐาน ทำให้มีความยืดหยุ่นมาก ในความเป็นจริง เหรียญมีมมีความทนทานต่อความผันผวนของตลาดมากกว่าคริปโตที่ไม่ค่อยมีชุมชน

ในขณะที่ Bitcoin ต้องใช้เวลา เพื่อทำราคาให้เพิ่มขึ้น 55% แต่ Popcat เหรียญมีมธรรมดาทั่วไป ราคากลับพุ่งสูงขึ้นถึง 18,000% ในปีนี้ คิดดูว่า ถ้าหาก Vantard มีพอร์ตการลงทุนที่เต็มไปด้วย Popcat ผลตอบแทนจะมากมายแค่ไหน…

ควรซื้อ ICO ของ Vantard ไหม?

หากคุณต้องการเพิ่มเงินทุนของคุณเข้ากองทุนที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งตอนนี้มีมูลค่ารวมกว่า  209,000 ดอลลาร์ และหากคุณต้องการเข้าร่วมในโปรเจกต์คริปโตที่ร้อนแรงที่สุดตอนนี้ ก็นับว่าเป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมในการเข้าร่วมกับ Vantard

และด้วยราคาของแต่ละโทเค็น VTARD ที่ 0.00012 ดอลลาร์ นี่จึงถือว่า เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดในโลกคริปโตตอนนี้ โดยเฉพาะในวงการเหรียญมีม

สำหรับการคาดการณ์ราคา VTARD นั้น Vantard มีการกระจายความเสี่ยงโดยรวมดีกว่า และมีอนาคตที่สดใสกว่า Popcat

ซึ่งถ้าหากเหรียญสามารถทำราคาเพิ่มขึ้นถึง 18,000%… คุณก็ลองจินตนาการว่า คุณจะทำเงินได้มากแค่ไหน

สำหรับผู้ที่สนใจอยากร่วมเทรนด์ Supercycle เหรียญมีม อย่างมีสไตล์ ๆ สามารถเข้าร่วม Seed Round ของ Vantard ได้วันนี้เลย

บทความนี้เป็นเพียงการให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโปรเจกต์เหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่เท่านั้น ทางผู้เขียนไม่ได้มีเจตนาในการแนะนำหรือเชิญชวนให้ลงทุนแต่อย่างใด คริปโทเคอร์เรนซี และ โทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

บทความนี้เป็นบทความสปอนเซอร์