<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

นักวิเคราะห์ชี้สาเหตุราคา Ethereum ร่วง พร้อมคาดการณ์โอกาสทะลุ 4,000 ดอลลาร์ในปี 2024

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ปัจจุบันตลาดคริปโตมองว่า โอกาสที่ราคา Ethereum (ETH) จะกลับมาพุ่งแตะจุดสูงสุดในปี  2024 ที่ราคาประมาณ 4,000 ดอลลาร์ ภายในสิ้นเดือนธันวาคมนี้ มีความเป็นไปได้น้อยมาก

ราคา Ethereum เคยถูกยกย่องให้เป็น “แร่เงิน” ในโลกคริปโต เปรียบเทียบกับ Bitcoin ที่เป็น “ทองคำ” แต่ Ethereum  กลับมีอัตราเติบโตเพียง 36% ในปีนี้ ซึ่งช้ากว่า Bitcoin ที่ราคาเพิ่มขึ้นอย่างน่าประทับใจถึง 109%

แม้ราคาปัจจุบันของ Eth  จะซื้อขายอยู่ที่ 3,100 ดอลลาร์ แต่ราคา Ethereum ยังคงต่ำกว่าจุดสูงสุดตลอดกาลที่ 4,832 ดอลลาร์ ในปี 2021 ในขณะที่ Bitcoin สามารถพุ่งทำราคาเข้าสู่จุดสูงสุดใหม่ที่มากกว่า 90,000  ดอลลาร์ได้สำเร็จ

งานวิจัยจาก Amberdata ระบุว่า มีโอกาสเพียง 10% ที่ราคา ETH จะสามารถพุ่งไปแตะระดับ 4,000 ดอลลาร์ ได้ก่อนสิ้นปีนี้ ในขณะเดียวกัน นักลงทุนกลับมุ่งเน้นไปที่ Bitcoin ซึ่งคาดการณ์ว่าราคาอาจพุ่งทะลุ 100,000 ดอลลาร์

ฟังก์ชันความหนาแน่นของความน่าจะเป็น (PDF) และฟังก์ชันการกระจายสะสม (CDF) ของออปชัน Ethereum (อ้างอิงจาก Amberdata และ Deribit)

การคาดการณ์ดังกล่าวอ้างอิงจากข้อมูลในตลาดออปชันของ Deribit ซึ่งกราฟแสดงโอกาสราคาของ Ether ที่จะไปถึงระดับต่าง ๆ ในช่วงเวลาหนึ่ง 

ณ เวลาปัจจุบัน ความเป็นไปได้ที่ราคา Ether จะพุ่งเกิน 4,000 ดอลลาร์ ก่อนวันหมดอายุออปชันในวันที่ 27 ธันวาคม อยู่ที่เพียง 10% ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึง การเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบภายใต้การนำของทรัมป์ แม้จะช่วยกระตุ้นความสนใจในเหรียญ DeFi แต่ไม่สามารถทำให้เกิดในลักษณะเช่นเดียวกันกับเหรียญ ETH ได้

Greg Magadini ผู้อำนวยการฝ่ายอนุพันธ์ของ Amberdata กล่าวในจดหมายข่าวถึงลูกค้าว่า

“ETH กำลังเผชิญกับอุปสรรคที่รุนแรง เนื่องจากจุดเด่นในฐานะ “sound money” หรือเงินที่มีคุณค่ามั่นคง ซึ่งเกิดจากการลดปริมาณอุปทานผ่านการเผาค่าธรรมเนียม (transaction fee burn) ได้เปลี่ยนไปเป็นสถานการณ์ที่มีอุปทานเพิ่มขึ้น (inflation supply) เพราะเกือบทุกธุรกรรมในระบบ DeFi ตอนนี้ไม่ได้ดำเนินการบน Ethereum Layer 1 แต่ย้ายไปอยู่บน Layer 2 แทน ผมเชื่อว่าสิ่งนี้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อราคาของ ETH โดยดึงราคาลงอย่างมาก”

กล่าวง่าย ๆ คือ คุณค่าของ ETH ในฐานะสินทรัพย์ที่มีการลดอุปทาน กลับถูกบั่นทอน เนื่องจากธุรกรรมหลักใน DeFi ได้เปลี่ยนไปใช้ Layer 2 ซึ่งลดการใช้ประโยชน์จาก Layer 1 ของ Ethereum และลดผลกระทบจากกลไกการเผาค่าธรรมเนียมที่ช่วยลดอุปทาน ETH

อย่างไรก็ตาม ยังมีความพยายามในปรับปรุง Ethereum  ซึ่งในงาน Devcon ที่จัดขึ้นโดยชุมชน Ethereum เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นักวิจัยคนสำคัญอย่าง Justin Drake ได้เสนอแนวคิด “Beam Chain” ซึ่งเป็นการยกเครื่องระบบครั้งใหญ่ โดยมีเป้าหมายลดเวลาในการสร้างบล็อกจาก 12 วินาทีเหลือเพียง 4 วินาที เพื่อเพิ่มปริมาณธุรกรรมบนเครือข่ายหลัก แทนที่จะถูกผลักไปยัง Layer 2

อย่างไรก็ตาม การพัฒนา Beam Chain อาจใช้เวลาหลายปี และยังไม่มีความแน่นอนว่าจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่

Bitcoin จะช่วยดึง Ethereum ให้เติบโต?

แม้ปัจจัยพื้นฐานของ Ethereum จะไม่เอื้ออำนวย แต่การเพิ่มขึ้นของราคาบิตคอยน์อาจช่วยผลักดันให้ราคา Ether พุ่งทะลุ 4,000 ดอลลาร์ ได้ในที่สุด อย่างไรก็ตาม ETH ยังคงมีแนวโน้ม ที่จะตามหลัง BTC ในแง่ของอัตราการเติบโตอยู่

Ethereum อาจต้องการ การเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างเพื่อกลับมาแข่งขันในตลาดคริปโตเคอเรนซีอีกครั้ง

ในขณะที่รายงาน ราคา Ethereum  กำลังซื้อขายอยู่ที่ 3,103.76 ดอลลาร์ ลดลง 0.86% ภายใน 24 ชั่วโมง อ้างอิงข้อมูลจาก coinmarketcap