<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Hedera (HBAR) คืออะไร ? บทบาทผู้นำในโลกของ Real-World Asset Tokenization

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ในยุคที่ เทคโนโลยีบล็อกเชน กำลังเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมการเงินและเศรษฐกิจทั่วโลก Hedera Hashgraph (HBAR) ได้ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้เล่นสำคัญ ด้วยการนำเสนอเทคโนโลยีที่รวดเร็ว ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพสูง Hedera ไม่ได้เป็นเพียงแพลตฟอร์มบล็อกเชนทั่วไปเท่านั้น แต่ยังแสดงบทบาทสำคัญใน Real-World Asset Tokenization (การแปลงสินทรัพย์ในโลกความจริงให้กลายเป็นโทเคนดิจิทัล) ซึ่งกำลังกลายเป็นเทรนด์ใหม่ในวงการการเงิน

Hedera เริ่มต้นได้อย่างไร?

Hedera ถูกก่อตั้งในปี 2017 โดยสองนักเทคโนโลยีชาวอเมริกัน Leemon Baird และ Mance Harmon ซึ่งทั้งคู่ยังเป็นผู้ก่อตั้งบริษัท Swirlds Labs บริษัทนี้คือผู้อยู่เบื้องหลังการพัฒนาเทคโนโลยีพื้นฐานของ Hedera ผู้ก่อตั้งทั้งสองมีประสบการณ์ที่ลึกซึ้งในด้าน AI, ความปลอดภัย, การป้องกัน และระบบยืนยันตัวตน ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างแพลตฟอร์มที่เชื่อถือได้

การพัฒนา Hedera ได้รับการสนับสนุนจาก HBAR Foundation และอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ Hedera Governing Council ซึ่งประกอบด้วยบริษัทยักษใหญ่ 39 แห่ง อาทิเช่น Google, Dell, LG และ IBM

ในช่วงเริ่มต้นของการระดมทุน Hedera ใช้รูปแบบ Simple Agreement for Future Tokens (SAFT) ซึ่งประมาณ 11% ของอุปทานเหรียญ HBAR ทั้งหมดได้ถูกแจกจ่ายให้กับนักลงทุนที่ได้รับการรับรอง

Hedera คืออะไร?

Hedera เป็นแพลตฟอร์ม Proof of Stake (PoS) ที่ออกแบบมาเพื่อการทำธุรกรรมคริปโตและการสร้างแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ (Dapps)

เครือข่าย Hedera มีจุดเด่นที่แตกต่างจากบล็อกเชนเจ้าอื่น ๆ โดยใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า “directed acyclic graph (DAG)” แทนการใช้งานบล็อกเชนแบบดั้งเดิมซึ่งประกอบด้วยโซ่ของบล็อกที่เรียงกันอย่างเป็นลำดับ ในระบบ DAG กลุ่มคอมพิวเตอร์หรือโหนด (nodes) จะทำงานแบบขนานกัน  ทำให้สามารถตรวจสอบการเชื่อมต่อระหว่างกันได้พร้อมกันผ่านโครงสร้างแบบสุ่ม

เครือข่ายบล็อกเชนในอดีตมักเผชิญกับปัญหาในการรักษาสมดุลระหว่าง การกระจายศูนย์, ความปลอดภัย และความสามารถในการขยายตัว ซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อ “blockchain trilemma” ปัญหานี้ทำให้เกิดข้อจำกัดด้านการออกแบบและเป็นอุปสรรคสำคัญต่อองค์กร ธุรกิจ และรัฐบาลที่ต้องการแพลตฟอร์มที่รองรับการทำงานแบบกระจายศูนย์และรองรับการทำงานที่มีปริมาณมาก

Hedera ใช้ directed acyclic graph (DAG) ที่เรียกว่า Hashgraph Gossip Protocol เพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ทีมงานของ Hedera ตั้งเป้าหมายสร้างเครือข่ายที่รองรับการใช้งานจริงหลากหลายประเภท เช่น การดูแลสุขภาพ, บริการทางการเงิน, ซัพพลายเชน, การเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi) และการชำระเงินผ่าน สกุลเงิน CBDC และ Stablecoins

ทั้งนี้ Hedera ใช้โทเค็น HBAR เป็นยูทีลีตี้โทเคนสำหรับการชำระเงิน เช่น การพัฒนาแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ (dapps), ค่าธรรมเนียมธุรกรรมและสัญญา Smart Contract รวมถึงการมีส่วนร่วมในกระบวนการกำกับดูแลที่ช่วยกำหนดอนาคตของเครือข่ายนี้

Hedera ทำงานอย่างไร?

แพลตฟอร์ม Hedera ถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้อย่างหลากหลายผ่านบริการ 3 อย่างหลัก ๆ ที่เรียกรวมกันว่า Hedera Network Services ซึ่งช่วยให้เครือข่ายนี้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ แต่ละบริการมีหน้าที่เฉพาะตัวที่ตอบโจทย์ทั้งการจัดการโทเคน บันทึกธุรกรรม และพัฒนาแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ :

  1. Hedera Token Service (HTS) : บริการนี้ช่วยให้คุณสามารถสร้าง โทเคนดิจิทัล ของตัวเองได้ ไม่ว่าจะเป็นโทเคนที่ใช้แทนกันได้ (Fungible Tokens) หรือโทเคนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่าง NFT

ตัวอย่าง:

  • Fungible Tokens: บริษัทหนึ่งอาจสร้างโทเคนชื่อ “HederaCoin” เพื่อใช้แทนค่าเงินในระบบของพวกเขา เช่น โทเคนเกม หรือโทเคนที่ใช้ในแอปพลิเคชันที่ต้องการระบบแต้มสะสม
  • NFT: ศิลปินสามารถสร้าง NFT ของผลงานศิลปะดิจิทัลของตัวเอง แล้วส่งต่อหรือขายให้กับแฟน ๆ ผ่าน Hedera ได้โดยตรง
  1. Hedera Consensus Service (HCS) : บริการนี้ช่วยให้เครือข่ายบันทึกข้อมูลและธุรกรรมได้แบบโปร่งใสและปลอดภัย เหมาะกับงานที่ต้องการการบันทึกเหตุการณ์แบบต่อเนื่อง เช่น การตัดสินใจในองค์กร การติดตามการส่งสินค้าใน ซัพพลายเชน หรือการจัดการเอกสารสำคัญ

ตัวอย่าง:

  • การติดตามซัพพลายเชน: บริษัทขนส่งสินค้าใช้ HCS เพื่อบันทึกข้อมูลทุกครั้งที่สินค้าเคลื่อนที่ผ่านจุดต่าง ๆ เช่น จากโรงงานสู่โกดัง ไปจนถึงมือลูกค้า ทำให้ข้อมูลทั้งหมดสามารถตรวจสอบได้
  • การจัดการระบบโหวต: องค์กรสามารถใช้ HCS ในการบันทึกผลการลงคะแนนเสียงเพื่อให้โปร่งใสและไม่สามารถแก้ไขได้
  1. Hedera Smart Contract Service : บริการนี้เปิดโอกาสให้นักพัฒนาสร้าง แอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ (dApps) โดยใช้ Smart Contracts บน Hedera ที่รองรับภาษาโปรแกรมอย่าง Solidity ซึ่งเป็นภาษายอดนิยมในเครือข่าย Ethereum

ตัวอย่าง:

  • DeFi (Decentralized Finance): นักพัฒนาสร้างแอปพลิเคชันการกู้ยืมเงินที่ปลอดภัยและทำงานอัตโนมัติ
  • เกม: เกมที่ใช้โทเคนเป็นรางวัลหรือ NFT เป็นไอเท็มในเกม สามารถใช้ Smart Contract เพื่อจัดการการแลกเปลี่ยนไอเท็มระหว่างผู้เล่น

ทั้งสามบริการหลักนี้ทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น ด้วยอัลกอริธึมชื่อว่า Hashgraph Gossip ซึ่งช่วยให้เครือข่ายสามารถประมวลผลข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและโปร่งใส เปรียบเสมือนการกระซิบข้อมูลระหว่างโหนดในเครือข่าย ทำให้ทุกคนในระบบเห็นข้อมูลพร้อมกัน

ยกตัวอย่างเช่น : หากมีการบันทึกธุรกรรมใหม่ เช่น การส่ง NFT ระหว่างสองคน โปรโตคอล Gossip จะกระจายข้อมูลนั้นไปยังโหนดทั้งหมดในเครือข่ายอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ทุกคนได้รับข้อมูลล่าสุด

กรณีการใช้งานจริง (Used-case) ของ Hedera

Hedera มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาโซลูชันสำหรับองค์กรในหลากหลายด้าน เช่น การดูแลสุขภาพ (Healthcare), ซัพพลายเชน (Supply Chain), บริการทางการเงิน (Financial Services), พลังงานและความยั่งยืน (Energy and Sustainability)

นอกจากนี้ Hedera ยังถูกออกแบบให้เป็นผู้ให้บริการเครือข่ายสำหรับการดำเนินงานของบล็อกเชนแบบปิด (permissioned blockchains) ที่มักถูกใช้งานโดยสถาบัน องค์กร และรัฐบาล ซึ่งแยกออกจากบล็อกเชนสาธารณะของ Hedera ที่ใช้โทเคน HBAR (คล้ายกับบล็อกเชนสาธารณะเช่น Bitcoin และ Ethereum)

Hedera ยังรองรับการใช้งานในด้านต่าง ๆ เช่น การยืนยันตัวตนแบบกระจายศูนย์ (Decentralized Identity), การโอนเงินระหว่างประเทศ (Remittances), การป้องกันการฉ้อโกง (Fraud Mitigation) รวมถึงการพัฒนาแอปพลิเคชัน DeFi, เกม Play-to-Earn และ Metaverse 

จุดเด่นของ Hedera Hashgraph

1. รองรับการใช้งานตามกฎหมายได้อย่างราบรื่น
Hedera ออกแบบมาเพื่อตอบสนองต่อข้อกำหนดด้านกฎระเบียบได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในกรณีการใช้งาน Stablecoins หรือสกุลเงินดิจิทัลที่ต้องการความชัดเจนด้านกฎหมาย ระบบสามารถปรับแต่งการใช้งานได้ในระดับบัญชี เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานและข้อกำหนดต่าง ๆ ทำให้ Hedera เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการความโปร่งใสและความมั่นใจในด้านการปฏิบัติตามกฎ

2. ความเร็วสูงในการประมวลผลธุรกรรม
ด้วยความสามารถในการรองรับได้มากกว่า 10,000 ธุรกรรมต่อวินาที (TPS) Hedera มีความเร็วในการบันทึกและประมวลผลข้อมูลที่เหนือกว่าหลายเครือข่าย อีกทั้งยังสามารถดำเนินธุรกรรมได้ในเวลาเพียงเสี้ยววินาที เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการการตอบสนองทันที เช่น การชำระเงินขนาดเล็กหรือระบบการค้าปลีก

3. ค่าธรรมเนียมต่ำและคงที่
หนึ่งในจุดเด่นของ Hedera คือค่าธรรมเนียมที่ ต่ำและแน่นอน อยู่ที่ประมาณ 0.001 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อธุรกรรม และจ่ายในรูปแบบโทเคน HBAR โดยค่าธรรมเนียมดังกล่าวไม่ได้รับผลกระทบจากปริมาณการใช้งานของเครือข่าย ทำให้ผู้ใช้สามารถวางแผนค่าใช้จ่ายได้ล่วงหน้าโดยไม่ต้องกังวลเรื่องความผันผวน

เหรียญ HBAR คืออะไร? ทำความรู้จักกับสกุลเงินหลักแห่งเครือข่าย Hedera 

HBAR เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ทำหน้าที่เป็นหัวใจหลักในระบบนิเวศของ Hedera Hashgraph ด้วยบทบาทที่หลากหลาย HBAR ถูกออกแบบมาเพื่อสนับสนุนการทำงานในเครือข่ายและช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำธุรกรรมหรือใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์ต่าง ๆ ได้อย่างราบรื่น

ในฐานะ สื่อกลางในการแลกเปลี่ยน HBAR ถูกใช้ในการโอนหรือชำระเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยความรวดเร็วของเครือข่ายและค่าธรรมเนียมต่ำเพียง 0.001 ดอลลาร์ต่อธุรกรรม ทำให้การใช้งาน HBAR มีความสะดวกและประหยัด เหมาะสำหรับการชำระเงินหรือโอนเงินในรูปแบบดิจิทัล

อีกบทบาทสำคัญคือ HBAR ทำหน้าที่เป็น ค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรม ทุกธุรกรรมบนเครือข่าย Hedera จะต้องใช้ HBAR เป็นค่าธรรมเนียม ผู้ใช้งานจึงต้องมี HBAR อยู่ในกระเป๋าเพื่อทำธุรกรรมต่าง ๆ บนเครือข่าย เช่น การโอนโทเคนหรือการใช้บริการอื่น ๆ

นอกจากนี้ HBAR ยังสามารถใช้ในการ Stake เพื่อเป็นผู้ตรวจสอบธุรกรรม ผู้ใช้งานสามารถนำเหรียญของตนเข้าไป Stake ในระบบเครือข่าย Hedera เพื่อรับสิทธิ์เป็น Validator ที่ช่วยตรวจสอบและบันทึกธุรกรรมบนเครือข่าย โดยค่าธรรมเนียมส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นจากการทำธุรกรรมในเครือข่ายจะถูกแบ่งปันให้แก่ผู้ Stake เป็นรางวัล

การจัดสรรอุปทานทั้งหมดของเหรียญ HBAR ถูกแบ่งออกเป็น 6 ส่วนดังนี้:

  • 32.41% จัดสรรให้กับ Hedera Pre-Minted Treasury
  • 23.99% สำหรับการพัฒนาเครือข่าย
  • 17% จำหน่ายให้กับนักลงทุนรายใหญ่ใน 3 รอบ
  • 7.96% มอบให้กับ Swirlds บริษัทผู้พัฒนา Hedera
  • 7.96% มอบให้กับผู้ร่วมก่อตั้งโครงการ
  • 4.44% มอบให้กับพนักงานของ Hedera

ปัจจุบันเหรียญ Hedera (HBAR) มีราคาซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 4.83 บาทต่อ 1 HBAR โดยมีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 184,522,695,103 บาท และมีอุปทานหมุนเวียนอยู่ที่ประมาณ 38,198,864,525 HBAR จากอุปทานสูงสุดที่กำหนดไว้ที่ 50,000,000,000 HBAR (อ้างอิงข้อมูลจาก Coinmarketcap ณ วันที่ 2 ธันวาคม 2567)

บทบาทผู้นำในวงการ Real-World Asset Tokenization (RWA) 

RWA คือการแปลงสินทรัพย์โลกจริงเป็นโทเคน ช่วยเพิ่มสภาพคล่อง เข้าถึงง่าย และปลอดภัย แต่เครือข่ายที่รองรับต้องมีความมั่นคงสูง เพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจส่งผลกระทบต่อสิทธิการถือครองสินทรัพย์

ยกตัวอย่างโปรเจกต์ที่ใช้ Hedera ในการแปลงสินทรัพย์โลกจริง (RWA Tokenization)

1. Diamond Standard: แปลงเพชรเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่สามารถซื้อขายได้

2. Abrdn: บริษัทบริการการเงินระดับโลกที่ใช้ Hedera เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการสินทรัพย์

3. Archax: ตลาดแลกเปลี่ยนหลักทรัพย์ดิจิทัลที่ใช้ Hedera เพื่อความสอดคล้องกับกฎระเบียบและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน

4. Bank Social: แพลตฟอร์มการเงินที่ใช้ Hedera เพื่อธุรกรรมที่โปร่งใสและปลอดภัย

5.Standard Bank: ใช้ Hedera เพื่อปรับปรุงบริการทางการเงินทั่วทวีปแอฟริกา

อย่างไรก็ตาม Hedera เป็นเครือข่ายที่เหมาะสมสำหรับ RWA ด้วยจุดเด่นที่สามารถรองรับได้มากถึง 10,000 ธุรกรรมต่อวินาที (TPS) ด้วยค่าธรรมเนียมที่ต่ำเพียง 0.001 ดอลลาร์ต่อธุรกรรมเท่านั้น, ความปลอดภัยระดับ Byzantine Fault Tolerant (aBFT) และการกำกับดูแลจาก Hedera Governance Council ซึ่งรวมบริษัทชั้นนำ 39 แห่ง ไม่ว่าจะเป็น Google, Dell, LG และ IBM ทำให้ Hedera เป็นหนึ่งในบล็อกเชนที่ปลอดภัยและน่าเชื่อถือที่สุด

ที่มา:bitstamp และ bitrue