กระดานเทรด NextBridge ของเอลซัลวาดอร์ได้ปิดการขายโทเคนมูลค่า 30 ล้านดอลลาร์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐในชื่อ USTBL และได้รับการสมัครสมาชิกผ่าน Bitfinex Securities ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Tether ผู้ออกเหรียญ Stablecoin แล้ว
โดยโทเคน USTBL ถูกสร้างบนเครือข่าย Bitcoin ผ่านโปรโตคอลชั้นที่สองที่เรียกว่า Liquid Network แต่ละโทเคนจะมีมูลค่าเทียบเท่ากับสัดส่วนของสินทรัพย์ที่บริหารจัดการ และตั้งเป้าออกโทเคนทั้งหมด 200 ล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ โทเคน USTBL นี้อยู่ภายใต้กฎหมายหลักทรัพย์ของเอลซัลวาดอร์ และถูกกำกับดูแลโดยสำนักงานคณะกรรมการสินทรัพย์ดิจิทัลแห่งชาติ
Michele Crivelli ผู้ก่อตั้ง NextBridge กล่าวว่า โทเคนนี้สามารถซื้อขายในตลาดรองได้ แต่การถอนจะเปิดให้ทำได้ในเดือนมีนาคม 2025
“เราจะเสนอวิธีการไถ่ถอนที่หลากหลาย โดยเริ่มจากการดำเนินการผ่านแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนที่มีโทเคน USTBL”
การเสนอขายครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของตลาดพันธบัตรที่ถูกโทเคนไลซ์ (Tokenized T-bills) ที่กำลังเติบโต ซึ่งมีคู่แข่งสำคัญเช่น OpenEden, BlackRock และ Franklin Templeton ที่เปิดตัวผลิตภัณฑ์ลักษณะเดียวกันในปี 2024 โดยเฉพาะ BlackRock ที่ดึงดูดเงินทุนได้กว่า 447 ล้านดอลลาร์ผ่านกองทุน USD Institutional Digital Liquidity
ซึ่งการมีโทเคนไลซ์พันธบัตรรัฐบาล ที่เป็นการแปลงพันธบัตรให้เป็นดิจิทัลบนบล็อกเชน จะช่วยเพิ่มสภาพคล่อง ทำให้ซื้อขายได้ง่ายขึ้นและลดระยะเวลาการชำระบัญชี อีกทั้งยังช่วยให้นักลงทุนทั่วโลกเข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับการสนับสนุนโดยรัฐบาลสหรัฐ
แม้ว่าปัจจุบันมูลค่าหลักทรัพย์ของรัฐบาลที่อยู่บนบล็อกเชนจะอยู่ที่ 2.3 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าคาดการณ์ว่าจะถึง 3 พันล้านดอลลาร์ภายในสิ้นปีนี้ แต่การโทเคนไลซ์สินทรัพย์ยังคงมีศักยภาพในตลาดโลก โดยเฉพาะสินทรัพย์ที่ไม่ค่อยมีสภาพคล่อง เช่น อสังหาริมทรัพย์และสินค้าเกษตร
จากการคาดการณ์ของ Global Financial Markets Association (GFMA) และ Boston Consulting Group มูลค่าของสินทรัพย์ที่ไม่ค่อยมีสภาพคล่องที่ถูกโทเคนไลซ์อาจพุ่งสูงถึง 16 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2030
ที่มา: Cointelegraph