ปฏิเสธไม่ได้ว่าเกาหลีเหนือถือเป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญของรัฐบาลต่างๆ จากปัญหาอาชญากรรมไซเบอร์ โดยเฉพาะการโจรกรรมคริปโตที่สร้างความเสียหายอย่างมากในปี 2024 นี้
ในขณะที่กลุ่มแฮ็กเกอร์ชื่อดังอย่าง Lazarus Group ถูกสงสัยว่าอยู่เบื้องหลังการโจรกรรมไซเบอร์ใน Web3 ครั้งใหญ่ เช่น การแฮ็ก Ronin Network มูลค่ากว่า 600 ล้านดอลลาร์
ทว่าล่าสุด เกาหลีใต้ได้ประกาศคว่ำบาตรบุคคล 15 คนจากองค์กร IT ของเกาหลีเหนือ และอีก 1 กลุ่มที่เกี่ยวข้อง โดยบุคคลเหล่านี้ถูกกล่าวหาว่าระดมทุนให้กับโครงการพัฒนาขีปนาวุธนิวเคลียร์และหน่วยงานอุตสาหกรรมอาวุธยุทโธปกรณ์ของเกาหลีเหนือ ตามรายงานจากกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้
โดยหนึ่งในบุคคลที่ถูกคว่ำบาตรคือ คิม ชอล-มิน สมาชิกของสำนักใหญ่ที่ 313 ซึ่งถูกกล่าวหาว่าแอบทำงานให้บริษัทในสหรัฐและแคนาดาเพื่อหารายได้มหาศาลส่งกลับไปยังโครงการอาวุธนิวเคลียร์ในกรุงเปียงยาง
และอีกคนคือ คิม รยู ซอง ที่ถูกฟ้องร้องโดยฝ่ายนิติบัญญัติของสหรัฐเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม ในข้อหาละเมิดมาตรการคว่ำบาตร การฟอกเงิน และการขโมยข้อมูลส่วนบุคคล โดยเขาสร้างรายได้กว่า 88 ล้านดอลลาร์ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา
ข้อมูลจาก Chainalysis พบว่า ในปี 2024 นี้กลุ่มแฮ็กเกอร์ที่เกี่ยวข้องกับเกาหลีเหนือได้โจรกรรมคริปโตไปกว่า 1.34 พันล้านดอลลาร์จากเหตุการณ์ทั้งหมด 47 ครั้ง ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 102% จากปี 2023 และคิดเป็นกว่า 61% ของมูลค่าคริปโตที่ถูกขโมยทั่วโลกในปีนี้
สิ่งที่น่ากังวลสำหรับปี 2025 คือแม้ว่าจำนวนการโจมตีโดยรวมอาจจะลดลง แต่การโจมตีที่ซับซ้อนและมูลค่าสูงจากเกาหลีเหนือกลับเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน แสดงให้เห็นว่ากลุ่มแฮ็กเกอร์ของเกาหลีเหนือได้พัฒนาทักษะและความเร็วในการเจาะระบบเพื่อให้ได้กำไรมากขึ้น
“ที่น่าสังเกตคือ การโจมตีที่สร้างรายได้ระหว่าง 50-100 ล้านดอลลาร์ และมากกว่า 100 ล้านดอลลาร์เกิดขึ้นบ่อยขึ้นในปี 2024 เมื่อเทียบกับปี 2023 ซึ่งบ่งชี้ว่าเกาหลีเหนือพัฒนาทักษะและความรวดเร็วในการโจมตีครั้งใหญ่ได้ดียิ่งขึ้น”
ที่มา: Cointelegraph