- บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโปรเจกต์คริปโตเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลเท่านั้น มิได้มีเจตนาในการแนะนำหรือเชิญชวนให้ลงทุนคริปโตเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดได้ โปรดศึกษาข้อมูลให้รอบคอบและลงทุนตามระดับความเสี่ยงที่ท่านยอมรับได้ ทาง Siam Blockchain รวมถึงผู้บริหารและพนักงานของบริษัท ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบในทุกกรณีหากเกิดความเสียหายจากการลงทุนของท่าน
นักลงทุนและนักเทรดคริปโตหลายคน ล้วนต้องการทำกำไรจากการเทรด แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีเวลา และทักษะที่จำเป็นเพื่อจัดการกับการเทรดทั้งหมดด้วยตัวเอง ซึ่งนี่คือสิ่งที่บอทเทรดคริปโต เข้ามามีบทบาทสำคัญ ที่ช่วยให้การซื้อขายเหรียญคริปโตเป็นไปโดยอัตโนมัติ และเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้ง่ายขึ้น
ด้วยความที่บอทเทรดคริปโตในตลาดมีหลากหลายตัวเลือก การตัดสินใจเลือกบอทที่เหมาะสมกับสไตล์การลงทุนของคุณจึงอาจเป็นเรื่องที่ท้าทาย ดังนั้นเพื่อช่วยให้ผู้อ่านทุกคนสามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ทางสยามบล็อกเชนจึงได้รวบรวมข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับ 9 บอทเทรดคริปโตที่ดีที่สุดในปี 2025 มานำเสนอให้ทราบกัน โดยจะมีการวิเคราะห์ทั้งจุดเด่น จุดด้อย ฟีเจอร์สำคัญ และความเหมาะสมกับนักลงทุนแต่ละประเภท เพื่อช่วยคุณปลดล็อกพอร์ตการลงทุนได้อย่างมั่นใจ
1. 3Commas
3Commas เป็นบอทเทรดคริปโตที่ช่วยให้การซื้อขายเป็นไปโดยอัตโนมัติ รองรับแพลตฟอร์มชั้นนำมากกว่า 14 แห่ง เช่น Binance, Coinbase, KuCoin และอื่น ๆ โดยก่อตั้งในปี 2017 พร้อมฟีเจอร์สำคัญ เช่น SmartTrade Terminal ที่ช่วยจัดการการซื้อขายหลายรายการพร้อมฟีเจอร์ Take Profit, Stop Loss และ Trailing เพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มผลกำไร
3Commas มีฟีเจอร์เด่นมากมายทั้ง DCA Bot ที่ช่วยลงทุนทีละน้อย เพื่อลดผลกระทบจากความผันผวนของราคา, Signal Bot ตอบสนองต่อสัญญาณตลาดแบบเรียลไทม์ เช่น ราคาหรือเทรนด์โซเชียลมีเดีย, Grid Bot เหมาะสำหรับการซื้อขายในตลาดที่เคลื่อนไหวในกรอบแคบ, Copy Trading คัดลอกกลยุทธ์การเทรดจากนักลงทุนมืออาชีพ, Portfolio Management ติดตามและจัดการพอร์ตโฟลิโอข้ามแพลตฟอร์ม
นอกจากนี้ยังรับประกันความปลอดภัยของธุรกรรมของคุณ ด้วยการใช้ IP Whitelisting และการเข้าถึง API ที่ปลอดภัยเพื่อปกป้องข้อมูลของคุณ
การกำหนดราคา
สำหรับการใช้งานฟรี จะสามารถใช้งานฟีเจอร์พื้นฐาน (SmarTrades 3 รายการ และบอท 1 ตัวต่อหมวดหมู่) ส่วนแบบ Pro ราคา $39/เดือน ใช้งาน SmarTrades ได้สูงสุด 50 รายการ และบอท 10 ตัว ในขณะที่แบบ Expert ราคา $59/เดือน รองรับบอทไม่จำกัด พร้อมส่วนลด 25% หากสมัครรายปี
ข้อดีของ3Commas
1. ฟีเจอร์หลากหลาย
- รองรับบอทที่หลากหลาย เช่น DCA Bot, Signal Bot, และ Grid Bot
- เครื่องมือ SmartTrade Terminal ช่วยให้การซื้อขายเป็นระบบและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
2. รองรับหลายแพลตฟอร์ม โดยรองรับการเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มชั้นนำกว่า 14 แห่ง
3. เหมาะสำหรับทุกระดับผู้ใช้งาน
- มือใหม่สามารถใช้ฟีเจอร์ Copy Trading เพื่อเริ่มต้นได้ง่าย
- มืออาชีพสามารถปรับแต่งบอทและกลยุทธ์ขั้นสูงได้
4. ความปลอดภัยสูง ใช้การป้องกันระดับสูง เช่น IP Whitelisting และ API Access ที่ปลอดภัย
5. ส่วนลดรายปี สมัครรายปีลด 25% ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ใช้งานระยะยาว
ข้อเสียของ 3Commas
1. ค่าใช้จ่ายสูงสำหรับมือใหม่
แผนแบบ Pro และ Expert อาจมีค่าใช้จ่ายที่สูงเกินไปสำหรับนักลงทุนรายย่อย
2. ฟีเจอร์ฟรีมีข้อจำกัด
บัญชีฟรีสามารถใช้งานฟีเจอร์ได้น้อย และไม่เพียงพอสำหรับการซื้อขายที่ซับซ้อน
3. ต้องการความรู้พื้นฐาน
การใช้งานบอทบางประเภท เช่น Signal Bot อาจต้องการความเข้าใจเกี่ยวกับการวิเคราะห์ตลาด
2. ArbitrageScanner.io
ArbitrageScanner.io เป็นบอทเทรดที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถทำกำไรจากการซื้อขายแบบ Arbitrage โดยติดตามส่วนต่างราคาของเหรียญระหว่างแพลตฟอร์ม CEX และ DEX โดยไม่ต้องเชื่อมต่อ API ทำให้เพิ่มความปลอดภัยให้กับเงินทุน
ArbitrageScanner.io มีฟีเจอร์เด่นมากมายทั้ง Arbitrage Perpetuals ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในขณะนี้ โดยเป็นกลยุทธ์ Spot + Futures ที่ให้ผลกำไรสูงและมีความเสี่ยงต่ำ, การแจ้งเตือนความแตกต่างของราคาแบบเรียลไทม์ ที่รับการแจ้งเตือนทุก 2 วินาที และรองรับการซื้อขายได้สูงสุด 200 ครั้งต่อวัน, กรณีศึกษาและการฝึกอบรม โดยมีวิดีโอการฝึกอบรมกว่า 50 รายการ ซึ่งเป็นตัวอย่างกรณีศึกษาจริงที่ผู้ใช้สามารถเรียนรู้และนำไปปรับใช้, API และ WhiteLabel Solutions ใช้ API บนโดเมนส่วนตัว (เริ่มต้น ราคา $500/เดือน) ส่วนโซลูชัน WhiteLabel สำหรับธุรกิจพร้อมใช้งาน
การกำหนดราคา
- ทดลองใช้งานฟรีได้ 1 วัน
- แผนการเริ่มต้นราคา ($69/เดือน): สามารถใช้ฟีเจอร์พื้นฐาน
- แผนธุรกิจ ราคา ($195/เดือน) และ แบบแพลตตินัม ราคา ($397/เดือน): สามารถใช้ฟีเจอร์ขั้นสูง
ข้อดีของ ArbitrageScanner.io
- ความปลอดภัยสูง : ไม่ต้องเชื่อมต่อ API
- เครื่องมือครบครัน : วิเคราะห์ Arbitrage และแสดงผลกำไรแบบเรียลไทม์
- รองรับแพลตฟอร์มมากกว่า 32 แห่ง : เช่น Binance, Bybit, Huobi, Gate
ข้อเสียของ ArbitrageScanner.io
- ค่าใช้จ่าย: ราคาสูงสำหรับผู้ใช้บางกลุ่ม
- เหมาะกับผู้มีประสบการณ์: ต้องเข้าใจกลยุทธ์ Arbitrage
3. Cryptohopper
Cryptohopper เปิดตัวในปี 2017 เป็นแพลตฟอร์มบอทซื้อขายคริปโตที่ช่วยให้การซื้อขายง่ายและมีประสิทธิภาพ รองรับการซื้อขายอัตโนมัติ 24 ชั่วโมง พร้อมฟีเจอร์ครบครัน
Cryptohopper มีฟีเจอร์เด่นมากมายทั้ง บอทซื้อขายตามอัลกอริทึม ทำงานอัตโนมัติ ใช้ตัวบ่งชี้ทางเทคนิคและสัญญาณจากนักวิเคราะห์ ซึ่งปรับแต่งได้ตามความต้องการของผู้ใช้, บอทสำเร็จรูปสำหรับมือใหม่ พร้อมใช้งานทันที เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ โดยสามารถคัดลอกกลยุทธ์จากเทรดเดอร์มืออาชีพ, การปรับแต่งกลยุทธ์ ใช้ฟีเจอร์ทดสอบย้อนหลัง (Backtesting) และการจำลองการซื้อขาย (Paper Trading) เพื่อประเมินประสิทธิภาพก่อนใช้งานจริง, ตลาดกลยุทธ์บอท สามารถซื้อขายกลยุทธ์จากนักเทรดผู้เชี่ยวชาญได้
นอกจากนี้ Cryptohopper ยังรองรับแพลตฟอร์มชั้นนำ โดยรองรับการเชื่อมต่อกับมากกว่า 17 แพลตฟอร์ม เช่น Binance, Coinbase, Kraken
การกำหนดราคา
- แผนฟรี: ใช้ฟีเจอร์คัดลอกและจัดการพอร์ตโฟลิโอ (จำกัด 20 ตำแหน่งเปิด)
- Explorer ราคา ($29/เดือน): รองรับตำแหน่งเปิด 80 รายการ บอท 15 ตัว พร้อมฟีเจอร์ทดสอบย้อนหลังและสร้างกลยุทธ์
ข้อดีของ Cryptohopper
- รองรับทุกระดับผู้ใช้งาน: ใช้งานง่ายสำหรับมือใหม่ และมีฟีเจอร์ขั้นสูงสำหรับมืออาชีพ
- การทำงานอัตโนมัติ: ซื้อขาย 24 ชั่วโมงโดยไม่ต้องแทรกแซง
- ความหลากหลายของฟีเจอร์: ตั้งค่ากลยุทธ์ได้อย่างยืดหยุ่น พร้อมทดลองก่อนใช้งานจริง
ข้อเสียของ Cryptohopper
- แผนฟรีมีข้อจำกัด: จำกัดการเปิด position เพียง 20 position ต่อหนึ่งเว็บเทรด
- ค่าใช้จ่าย: แผนพรีเมียมอาจไม่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นที่มีงบประมาณจำกัด
4. Pionex
Pionex ให้บริการบอทเทรดคริปโตที่เปิดตัวในปี 2019 มุ่งเน้นทำให้การซื้อขายแบบอัตโนมัติเป็นเรื่องง่ายสำหรับทุกคน โดยมาพร้อมบอทซื้อขายฟรี 16 รูปแบบที่สามารถทำงานได้อัตโนมัติแบบต่อเนื่อง
Pionex มีฟีเจอร์เด่นมากมายทั้ง Grid Trading Bot ซื้อในราคาต่ำและขายในราคาสูงในช่วงราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า, DCA Bot (Dollar-Cost Averaging) ลงทุนทีละน้อยในช่วงเวลาที่กำหนด ลดความเสี่ยงจากความผันผวน, Smart Order Route ระบบค้นหาอัตราที่ดีที่สุดจากหลายตลาด ช่วยรักษาสภาพคล่องและสเปรดที่แคบ
Pionex มีค่าธรรมเนียมการซื้อขายต่ำ โดยคิดค่าธรรมเนียมเพียง 0.05% ต่อการซื้อขาย ซึ่งการซื้อขายแบบ Spot และ Futures รองรับคู่ซื้อขายกว่า 350 คู่
ข้อดีของ Pionex
- บอทฟรี: ใช้บอท 16 รูปแบบได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
- ค่าธรรมเนียมต่ำ: เพียง 0.05% ต่อการซื้อขาย
- เหมาะสำหรับมือใหม่: ระบบบอทใช้งานง่ายและไม่ต้องปรับแต่งซับซ้อน
ข้อเสียของ Pionex
- ไม่รองรับแพลตฟอร์มภายนอก: ไม่สามารถเชื่อมต่อ Binance หรือ OKX ผ่าน API ได้
- เหมาะกับการใช้งานในระบบ Pionex เท่านั้น
5. Quadency: บอทฟรีของ KuCoin
Quadency เป็นแพลตฟอร์มที่รวมเครื่องมือการซื้อขายแบบแมนนวล และแบบอัตโนมัติเข้าไว้ด้วยกัน พร้อมให้บริการข้อมูลตลาดแบบเรียลไทม์ การติดตามพอร์ตการลงทุน และการสร้างกลยุทธ์ซื้อขายที่ยืดหยุ่น
Quadency มีฟีเจอร์เด่นมากมายทั้ง บอทซื้อขายหลากหลาย บอทสำหรับตลาดกริด การปรับสมดุล และการสร้างตลาด ซึ่งรองรับการซื้อขายแบบ Spot และ Futures,ฟีเจอร์จัดการความเสี่ยง สามารถตั้งค่า Stop-Loss และ Take-Profit เพื่อควบคุมความเสี่ยง, Cody AI ผู้ถือโทเค็น QUAD จะเข้าถึง Cody AI และฟีเจอร์พรีเมียมสำหรับการซื้อขายขั้นสูง, การทดสอบย้อนหลัง (Backtesting) ทดลองกลยุทธ์ด้วยข้อมูลในอดีตเพื่อประเมินผลลัพธ์ก่อนการใช้งานจริง
นอกจากนี้ Quadency สามารถจัดการหลายบัญชีอย่างง่ายดาย ได้จากแดชบอร์ดเดียว รวมถึง Quadency ในแอปมือถือ สามารถรองรับทั้ง iOS และ Android
การกำหนดราคา
- แผนฟรี: รองรับการเชื่อมต่อ 1 เว็บเทรดและบอทซื้อขายสด 1 ตัว
- Pro Plan ราคา ($40/เดือน): ฟีเจอร์ซื้อขายอัตโนมัติทั้งหมด
- Premium Plan ราคา ($80/เดือน): รองรับบอทและการเชื่อมต่อไม่จำกัด
ข้อดีของ Quadency
- ฟีเจอร์ครบครัน: รวมการซื้อขายแมนนวลและอัตโนมัติ พร้อมเครื่องมือวิเคราะห์ที่ยืดหยุ่น
- รองรับหลายแพลตฟอร์ม: ใช้งานได้กับเว็บเทรดชั้นนำกว่า 20 แห่ง เช่น Binance, Coinbase Pro, Kraken, KuCoin
- แผนฟรีสำหรับ KuCoin: ผู้ใช้ KuCoin ใช้งานแผนพรีเมียมได้ฟรี
ข้อเสียของ Quadency
- ค่าใช้จ่ายสูง: แผน Pro ($40/เดือน) และ Premium ($80/เดือน) อาจไม่เหมาะสำหรับผู้ใช้ทั่วไป
- เหมาะสำหรับผู้มีประสบการณ์: การใช้งานฟีเจอร์ขั้นสูงต้องมีความรู้ด้านการเทรด
6. TradeSanta
TradeSanta เป็นโปรแกรมซื้อขายคริปโตบนคลาวด์ที่ออกแบบมาเพื่อทำการซื้อขายอัตโนมัติ รองรับกลยุทธ์ที่หลากหลาย เช่น Grid, DCA (Dollar Cost Averaging) และ Smart Orders ช่วยเพิ่มโอกาสทำกำไรในทุกสภาวะตลาด
TradeSanta มีฟีเจอร์เด่นมากมายทั้ง กลยุทธ์ที่ปรับแต่งได้ แบบ Grid Bot: ซื้อขายในช่วงราคาที่กำหนด DCA Bot: ลงทุนทีละน้อยเพื่อลดความเสี่ยง Smart Orders: ช่วยตั้งค่าการทำกำไรและลดความเสี่ยง, Mirror Trading คัดลอกกลยุทธ์จากเทรดเดอร์ผู้เชี่ยวชาญและนำไปใช้กับบัญชีของคุณ, เครื่องมือขั้นสูง ในฟีเจอร์ Trailing Take Profit ที่ช่วยล็อกกำไรขณะตลาดเคลื่อนไหว
TradeSanta มีอินเทอร์เฟซใช้งานง่าย รองรับทั้งบนเว็บและแอปมือถือ เหมาะสำหรับมือใหม่และผู้ที่ต้องการระบบอัตโนมัติ
การกำหนดราคา
- Basic ราคา($25/เดือน) : ใช้บอทสูงสุด 49 ตัว คู่ซื้อขายไม่จำกัด
- Advanced ราคา ($45/เดือน): ใช้บอทสูงสุด 99 ตัว พร้อมฟีเจอร์ขั้นสูง เช่น Trailing Take Profit
- Maximum ราคา ($90/เดือน): ใช้บอทไม่จำกัดและเครื่องมือครบครัน
ข้อดีของ TradeSanta
- ปรับแต่งกลยุทธ์ได้หลากหลาย: เหมาะกับนักเทรดทุกระดับ
- รองรับเว็บเทรดชั้นนำ: ใช้งานได้กับ Binance, Coinbase Pro, ByBit, OKX และอีกกว่า 10 แพลตฟอร์ม
- แผนราคายืดหยุ่น: เริ่มต้นเพียง $25 ต่อเดือน
ข้อเสียของ TradeSanta
- ต้องสมัครแผนสูงสุดเพื่อใช้งานฟีเจอร์ทั้งหมด
- เหมาะกับตลาดคริปโตมากกว่าสินทรัพย์อื่น
7. WunderTrading: บอท Grid ที่ดีที่สุด
WunderTrading เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้ผู้ใช้สร้างและใช้งานบอทซื้อขายคริปโตได้โดยไม่ต้องเขียนโค้ด รองรับการซื้อขายทั้งแบบแมนนวลและอัตโนมัติ มีฟีเจอร์หลากหลาย เช่น บอทซื้อขายกริด, DCA, และการคัดลอกการซื้อขาย พร้อมการวิเคราะห์ข้อมูลตลาดอย่างละเอียด
WunderTrading มีฟีเจอร์เด่นมากมายทั้ง บอทซื้อขายแบบปรับแต่งได้ บอทซื้อขายกริด, บอท DCA, และบอทสัญญาณที่ปรับแต่งตามกลยุทธ์ รวมถึงการทดสอบกลยุทธ์ย้อนหลังด้วยข้อมูลในอดีต, คัดลอกการซื้อขาย (Copy Trading) ติดตามกลยุทธ์จากเทรดเดอร์ผู้เชี่ยวชาญ, Telegram Bot แจ้งเตือนเมื่อมีเหรียญราคาต่ำที่มีการปั๊มราคา รวมถึงการแจ้งเตือนผ่านอีเมลและ Telegram สำหรับการซื้อขาย,การวิเคราะห์ประสิทธิภาพ รายงานโดยละเอียดและการวิเคราะห์ด้วยกราฟ TradingView
WunderTrading มีความปลอดภัยสูง ใช้การยืนยันตัวตนสองขั้นตอนและการเข้ารหัสข้อมูล นอกจากนี้ยังรองรับบัญชีการจำลองการซื้อขายสำหรับการฝึกฝน
WunderTrading รองรับเว็บเทรดกว่า 16 แห่ง เช่น Binance, Coinbase Pro, Deribit, KuCoin, และ Bybit
การกำหนดราคา
- แผนฟรี: ใช้งานฟีเจอร์พื้นฐาน เช่น การจำลองการซื้อขาย และติดตามพอร์ตโฟลิโอ
- Starter Plan ราคา ($4.95/เดือน): ใช้บอทได้ 1 ตัวต่อหมวดหมู่
- Basic Plan ราคา ($19.95/เดือน): ใช้บอทได้สูงสุด 5 ตัว
ข้อดีของ WunderTrading
- ฟีเจอร์หลากหลาย: รองรับทั้งการซื้อขายแบบแมนนวลและอัตโนมัติ
- ความปลอดภัยสูง: ใช้ระบบยืนยันตัวตนและโครงสร้างพื้นฐาน AWS
- เหมาะสำหรับทุกระดับผู้ใช้งาน: อินเทอร์เฟซใช้งานง่าย
ข้อเสียของ WunderTrading
- แผนฟรีมีข้อจำกัด: ใช้ได้เฉพาะฟีเจอร์พื้นฐาน
- ต้องสมัครแผนเสียเงินเพื่อใช้บอทเพิ่ม
8. Coinrule : บอท Copy Trading ที่ดีที่สุด
Coinrule เป็นแพลตฟอร์มบอทซื้อขายคริปโตที่ช่วยให้นักลงทุนทั้งมือใหม่และมืออาชีพสร้างกลยุทธ์การซื้อขายที่กำหนดเองได้ โดยไม่ต้องมีความรู้ในการเขียนโค้ด รองรับการคัดลอกกลยุทธ์จากนักเทรดมืออาชีพ และการตั้งค่าบอทด้วยกฎ “If This Then That” (IFTTT)
Coinrule มีฟีเจอร์เด่นมากมายทั้ง สร้างกลยุทธ์แบบกำหนดเอง ใช้หลักการ IFTTT เพื่อกำหนดเงื่อนไขการซื้อ/ขาย รวมถึงคลังกลยุทธ์สำเร็จรูปกว่า 150 รูปแบบ เช่น Bollinger Bands และ Golden Crosses , การทดสอบย้อนหลัง (Backtesting)ทดลองกลยุทธ์กับข้อมูลในอดีตเพื่อประเมินผลก่อนใช้งานจริง , การซื้อขายแบบสาธิต ทดลองและปรับปรุงกลยุทธ์โดยไม่เสี่ยงเงินจริง, คัดลอกกลยุทธ์จากนักเทรด ใช้กลยุทธ์ของนักเทรดมืออาชีพเพื่อเริ่มต้นอย่างรวดเร็ว
Coinrule รองรับการเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มชั้นนำกว่า 10 แห่ง เช่น Binance, Coinbase Pro, Kraken, และ KuCoin
การกำหนดราคา
- Starter (ฟรี): ฟีเจอร์พื้นฐาน
- Hobbyist ราคา ($29.99/เดือน): รองรับกลยุทธ์มากขึ้น
- Trader ราคา ($59.99/เดือน): ฟีเจอร์ครบครันสำหรับนักลงทุนระดับกลาง
- Pro ราคา ($749.99/เดือน): รองรับฟีเจอร์ขั้นสูงและการใช้งานแบบมืออาชีพ
ข้อดีของ Coinrule
- ใช้งานง่าย: ไม่ต้องมีความรู้ในการเขียนโค้ด
- กลยุทธ์สำเร็จรูปหลากหลาย: มีตัวเลือกสำหรับนักเทรดทุกระดับ
- รองรับเว็บเทรดชั้นนำ: เช่น Binance, Coinbase Pro, Kraken, KuCoin
ข้อเสียของ Coinrule
- แผนฟรีมีข้อจำกัด: ใช้งานได้เฉพาะฟีเจอร์พื้นฐาน
- ราคาแผน Pro สูงมาก: $749.99/เดือน อาจไม่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น
9. Bitsgap: บอท Binance ที่ดีที่สุด
Bitsgap เป็นแพลตฟอร์มบอทเทรดคริปโตที่โดดเด่นสำหรับผู้ใช้งาน Binance มาพร้อมกับเครื่องมือซื้อขายอัตโนมัติ การจัดการพอร์ตโฟลิโอ และเครื่องมือวิเคราะห์ตลาดที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการซื้อขายของคุณ
Bitsgap มีฟีเจอร์เด่นมากมายทั้ง บอทเทรดอัตโนมัติ สร้างกลยุทธ์การซื้อขายของคุณเองหรือใช้บอทที่ตั้งค่าไว้ล่วงหน้า รวมถึงมีบอทเทรดแบบกริด, บอท BTD และบอท COMBO, โหมดสาธิต (Demo Mode) สำหรับทดสอบกลยุทธ์การซื้อขายโดยไม่ต้องเสี่ยงเงินจริง, คำสั่งอัจฉริยะ (Smart Orders) เพิ่มโอกาสในการทำกำไรและลดความเสี่ยงด้วยคำสั่งซื้อขายขั้นสูง, การจัดการพอร์ตโฟลิโอ แสดงข้อมูลตลาดแบบเรียลไทม์และประสิทธิภาพของพอร์ตการลงทุน รวมถึง ติดตามสินทรัพย์และการซื้อขายในแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนกว่า 15 แห่งในที่เดียว
Bitsgap ยังรองรับคู่การซื้อขายกว่า 10,000 คู่ ซึ่งรองรับประเภทคำสั่งซื้อขายที่หลากหลาย
การกำหนดราคา
- แผนฟรี: ใช้งานการซื้อขายด้วยตนเองและโหมดสาธิต
- แผนพรีเมียม (เริ่มต้น $28/เดือน): รวมบอท Active Grid 3 ตัว และบอท Active DCA 10 ตัว
ข้อดีของ Bitsgap
- ฟีเจอร์ครบครัน: รวมบอทเทรดอัตโนมัติและเครื่องมือวิเคราะห์ตลาด
- ใช้งานง่าย: อินเทอร์เฟซที่เป็นมิตรกับผู้ใช้ เหมาะสำหรับทั้งมือใหม่และมืออาชีพ
- รองรับเว็บเทรดหลากหลาย: เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มชั้นนำกว่า 15 แห่ง เช่น Binance, OKX, Coinbase Pro และ HTX
- โหมดสาธิต: ทดลองกลยุทธ์ก่อนใช้งานจริง ลดความเสี่ยงในการลงทุน
ข้อเสียของ Bitsgap
- แผนฟรีมีข้อจำกัด: ใช้งานได้เฉพาะการซื้อขายด้วยตนเองและโหมดสาธิต
- ค่าใช้จ่ายสำหรับฟีเจอร์เพิ่มเติม: ต้องสมัครแผนพรีเมียมเพื่อใช้งานบอทเทรดอัตโนมัติและฟีเจอร์ขั้นสูง
จาก 9 บอทเทรดคริปโตที่เราแนะนำไป แต่ละตัวก็มีจุดเด่นและข้อจำกัดที่แตกต่างกันซึ่งการจะเลือกบอทให้เหมาะกับตัวเอง ควรดูจากความต้องการ ความถนัด และกลยุทธ์การลงทุนที่เราใช้อยู่ ที่สำคัญคือ อย่าลืมศึกษาข้อมูลของบอทตัวที่สนใจให้ดี ๆ ก่อนเริ่มใช้งาน จะได้ช่วยลดความเสี่ยง และมั่นใจได้ว่าบอทที่เลือกนั้นทั้งปลอดภัยและเหมาะกับการเทรดของเราจริง ๆ
- ที่มา : nftevening
- ที่มาภาพ : cryptostars
คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้