เมื่อวันที่ 3 มกราคมที่ผ่านมา สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานความคืบหน้าในคดีระหว่างหน่วยงานกำกับดูแลธนาคารของสหรัฐฯ และ Coinbase โดยมีการเปิดเผยว่า หน่วยงานดังกล่าวเคยแนะนำให้ธนาคารชะลอการลงทุนโดยตรงในคริปโตระหว่างปี 2022 และ 2023 แต่ไม่ได้สั่งห้ามธนาคารหยุดให้บริการทางการเงินแก่บริษัทคริปโต
อย่างไรก็ตาม ฝั่งอุตสาหกรรมคริปโตกลับออกมาร้องเรียนว่า ธนาคารหลายแห่งตัดบริการทางการเงินหรือปิดบัญชีของพวกเขาแบบไม่มีเหตุผล ซึ่งดูขัดแย้งกับสิ่งที่หน่วยงานกำกับดูแลกล่าวไว้ เอกสารเกี่ยวกับประเด็นนี้ถูกเผยแพร่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
ล่าสุด ศาลสหรัฐฯ มีคำสั่งให้องค์การประกันเงินฝาก (FDIC) เปิดเผยเอกสารเพิ่มเติมในคดีนี้ หลังจากที่ Coinbase พยายามต่อสู้เพื่อเปิดโปงความจริงเกี่ยวกับการที่บริษัทคริปโตถูกกีดกันจากระบบการเงินแบบดั้งเดิม
ก่อนหน้านี้ FDIC ได้เปิดเผยเอกสารบางส่วนไปแล้วในเดือนธันวาคม แต่ศาลมองว่ายังไม่เพียงพอ จึงสั่งให้ปรับปรุงการเปิดเผยข้อมูลในเอกสารชุดใหม่ ซึ่งมีจำนวน 25 ฉบับ และเพิ่มจดหมายที่ส่งถึงธนาคารอีก 2 แห่งที่ไม่ได้ระบุไว้ในการเปิดเผยครั้งแรก
Paul Grewel หัวหน้าฝ่ายกฎหมายของ Coinbase ออกมาเผยว่า เอกสารที่ได้รับแสดงให้เห็นถึงความพยายามในการจำกัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับคริปโตอย่างชัดเจน โดย Coinbase ยืนยันว่าจะผลักดันให้สภาคองเกรสเข้ามาสืบสวนเรื่องนี้ต่อไป เพื่อเปิดเผยความจริงให้มากขึ้น
ขณะที่ทาง FDIC ออกมาโต้ตอบด้วยข้อมูลที่ว่า พวกเขาไม่ได้สั่งให้ระงับบริการทางการเงินแก่อุตสาหกรรมคริปโตแต่อย่างใด ซึ่งเอกสารได้ชี้ให้เห็นว่ามีเพียงการออกคำสั่งให้ธนาคารระงับการลงทุนในคริปโต และหยุดนำเสนอบริการที่เกี่ยวข้องกับคริปโต เนื่องจากยังไม่มั่นคงและปลอดภัย
เป็นเรื่องน่าสนใจที่เอกสารดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกมาก่อนหน้าการขึ้นตำแหน่งของ โดนัลด์ ทรัมป์เพียงไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น ซึ่งหลายฝ่ายต่างคาดการณ์ว่าทรัมป์อาจออกคำสั่งพิเศษให้ทางหน่วยงานผ่อนปรนกับอุตสาหกรรมคริปโตมากขึ้น และมีการยกเครื่องกฎหมายคริปโตใหม่ทั้งหมด
ที่มา : Reuters