<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

นักลงทุนกังวล ! “คลังสินทรัพย์ดิจิทัล” ของทรัมป์อาจไม่ได้มีแค่บิทคอยน์เพียงอย่างเดียว

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

นักลงทุน Bitcoin ต่างแสดงความไม่พอใจต่อคำสั่งบริหารล่าสุดของทรัมป์ หลังเขาใช้ถ้อยคำกำกวมเกี่ยวกับการจัดตั้งคลังทุนสำรอง Bitcoin ซึ่งเคยให้คำมั่นสัญญาไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว

ข้อมูลเปิดเผยว่าในระหว่างที่ทรัมป์เซ็นคำสั่งบริหารพิเศษคำว่า “Bitcoin” ไม่ได้ถูกเอ่ยถึงเลยแม้แต่ครั้งเดียว กลับกันเขาได้มีการระบุว่าจะมีการจัดตั้งหน่วยงานขึ้นมาเพื่อเร่งศึกษาการจัดตั้ง “คลังสินทรัพย์ดิจิทัล” สิ่งนี้หมายความว่าสหรัฐฯ อาจมีการจัดเก็บคริปโตมากกว่า 1 สกุล และทำให้เหล่า Bitcoin Maximalist แห่วิจารณ์ทรัมป์กันอย่างหนักหน่วง

Dennis Porter ซีอีโอของ Satoshi Action Fund กล่าวว่าการที่พวกเขาใช้คำว่า “สินทรัพย์ดิจิทัล” ถือเป็นแนวทางปฏิบัติที่ “ดีกว่า” เพราะเป็นคำที่ “เป็นกลางทางเทคโนโลยี” และ “ลดแรงเสียดทานทางการเมือง” ได้ดีกว่าและจะทำให้เป้าหมายที่วางไว้บรรลุได้ง่ายกว่า

ขณะเดียวกัน Pierre Rochard รองประธานของบริษัทเหมืองขุด Riot Platforms  กล่าวว่าไม่มี “ความกำกวม” ใดๆ ในภาษาที่ใช้ในคำสั่ง เขายังอ้างว่า Ripple Labs เป็น “อุปสรรคใหญ่ที่สุด” ต่อการมีเงินทุนสำรองที่เป็น Bitcoin เพียงอย่างเดียว และกล่าวหาว่าบริษัทกำลัง “ล็อบบี้อย่างหนัก” เพื่อต่อต้านแนวคิดนี้  เพื่อที่พวกเขาจะได้ “ผลักดันให้มี CBDC ที่สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มของตน”

นอกเหนือจากนี้บทสัมภาษณ์ล่าสุดของ David Sacks ผู้เป็น crypto czar ในรัฐบาลทรัมป์ยังเผยให้เห็นว่า เขาเลือกที่จะใช้คำว่า Crypto Stockpile แทนที่จะเป็น Crypto Reserve เพราะโดยปกติแล้วคำว่า Stockpile asset หมายถึงคลังสำรองที่รัฐบาลเป็นคนจัดการเก็บสินทรัพย์เพื่อนำมาใช้งานในอนาคตหรือยามฉุกเฉิน ขณะที่ Reserve asset จะทำหน้าที่ส่งเสริมให้ภาคการเงินในประเทศแข็งแกร่งขึ้น

ปัจจุบันรัฐบาลสหรัฐฯ ยังคงถือครอง Bitcoin จำนวนกว่า 198,100 BTC คิดเป็น 98% ของพอร์ต โดยมีมูลค่าประมาณ 2 หมื่นล้านดอลลาร์ ตามการรายงานของ Arkham Intelligence

ที่มา : Cointelegraph