Vitalik Buterin ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum ได้เผยกลยุทธ์ในการขยายระบบนิเวศ Ethereum โดยเน้นพัฒนา Layer-2 (L2) โซลูชัน เพิ่มการรองรับ blob scaling และเสริมบทบาทของ Ether (ETH) ให้เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลักในเครือข่าย
ในบล็อกโพสต์ล่าสุดของเขา Buterin ชี้ว่า ETH ควรเป็นสินทรัพย์หลักของเศรษฐกิจ Ethereum ทั้ง L1 และ L2 รวมถึงพร้อมกระตุ้นให้เครือข่าย L2 ใช้ ETH เป็นส่วนหนึ่งของค่าธรรมเนียมธุรกรรม อีกทั้งเสนอให้เพิ่มจำนวน blob เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการประมวลผลธุรกรรม
แม้ L2 จะช่วยลดค่าธรรมเนียมและเพิ่มประสิทธิภาพการทำธุรกรรมได้อย่างมีนัยสำคัญ แต่ Buterin ระบุว่ามันยังมีความจำเป็นต้องเร่งการใช้งานโซลูชันเหล่านี้ให้แพร่หลายมากขึ้น พร้อมพัฒนาให้เกิดการทำงานร่วมกันอย่างไร้รอยต่อระหว่าง L2 ต่าง ๆ
เขามองว่าความยั่งยืนของ Ethereum ขึ้นอยู่กับการเติบโตของระบบนิเวศ การปรับปรุงมาตรฐานทางเทคนิค และการรักษาบทบาทของ ETH ในฐานะตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
ในขณะเดียวกัน Buterin ได้อธิบายว่า blob เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ Ethereum ประมวลผลธุรกรรมได้มากขึ้นในต้นทุนที่ต่ำลง โดยไม่ลดทอนความปลอดภัยหรือการกระจายศูนย์ โดยปัจจุบัน Ethereum รองรับ blob ที่ 3 หน่วยต่อ slot และมีกำหนดเพิ่มเป็น 6 หน่วยในเดือนมีนาคมผ่านการอัปเกรด Pectra ในอนาคต
นอกจากนี้ หากสามารถพัฒนาสู่ 2D sampling ได้สำเร็จ Ethereum อาจรองรับ blob ได้ถึง 128 หน่วยต่อ slot และสามารถประมวลผลธุรกรรมได้ถึง 100,000 รายการต่อวินาที
เขาเน้นย้ำว่า การใช้งาน Ethereum ควรให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในระบบนิเวศเดียว ไม่ใช่เครือข่ายบล็อกเชนที่แยกส่วนกัน พร้อมเรียกร้องให้เพิ่มความสำคัญกับเศรษฐศาสตร์ของ ETH เพื่อให้ ETH ยังคงสะสมมูลค่าได้ แม้ในโลกที่เครือข่าย L2 จะมีบทบาทมากขึ้น
“เราต้องมั่นใจว่า ETH จะยังคงสะสมมูลค่าได้ แม้ในโลกที่เครือข่าย L2 มีบทบาทมากขึ้น โดยควรมีการแก้ปัญหาให้รองรับโมเดลที่หลากหลายเกี่ยวกับการสะสมมูลค่าอย่างเหมาะสม”
อย่างไรก็ตาม Buterin เตือนว่า Ethereum ต้องไม่เสียสละอุดมการณ์พื้นฐานเพื่อแลกกับประโยชน์การใช้งาน เขาเปรียบเทียบว่าการละทิ้งหลักการเพื่อมุ่งเน้นยูทิลิตี้มากเกินไปเหมือนกับแนวคิดโลภเป็นสิ่งดีของ Wall Street ซึ่งเขาและหลายคนเข้ามาในวงการนี้เพื่อหลีกเลี่ยง
แม้จะเน้นความร่วมมือและการพัฒนาร่วมกัน แต่ Buterin ยืนยันว่าเขายังคงมีอำนาจในการตัดสินใจใน Ethereum Foundation (EF) จนกว่าจะมีการจัดตั้งคณะกรรมการที่เหมาะสมเพื่อรับช่วงต่อในอนาคต
ที่มา: Cointelegraph