ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาคงเป็นที่ทราบกันดีแล้วว่าตัวของ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนปัจจุบันของสหรัฐฯ ได้เซ็นเอกสารคำสั่งบริหารในการจัดตั้งหน่วยงานขึ้นมาศึกษาวิธีการจัดตั้ง “คลังทุนสำรองสินทรัพย์ดิจิทัลของสหรัฐฯ”
ทว่า Edan Yago ผู้ร่วมก่อตั้ง BitcoinOS กลับมั่นใจมากว่ารัฐบาลสหรัฐฯ จะทำการจัดตั้งคลังทุนสำรอง Bitcoin อย่างแน่นอนด้วยเหตุผลทั้ง 5 ประการนี้
1. ทรัมป์ต้องรักษาสัญญา-ให้เกียรติผู้ภักดีของเขา
Yago ระบุว่าในงาน Bitcoin Conference เมื่อกลางปีที่แล้ว ทรัมป์สามารถระดมทุนไปได้มากถึง 25 ล้านดอลลาร์ โดยสัญญาว่าจะสร้างคลังสินทรัพย์ดิจิทัลหากได้รับตำแหน่ง ซึ่งต่อมาเขาก็ชนะการเลือกตั้ง และข้อมูลยังเปิดเผยว่าชุมชนคริปโตได้บริจาคเงินให้ทรัมป์รวมกันไปมากถึง $130 ล้าน ทำให้ทรัมป์ต้องตอบแทนผู้ที่ภักดีเหล่านี้
2.ทรัมป์เซ็นเอกสารคำสั่งฝ่ายบริหารแล้ว
อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่าตัวของทรัมป์ได้ทำการเซ็น Executive order เพื่อศึกษาการสร้าง “คลังทุนสำรองสินทรัพย์ดิจิทัล” แล้วในวันที่สามของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นวาระสำคัญในรัฐบาลของทรัมป์ที่ต้องเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จ
3. คนในพรรคของทรัมป์สนับสนุนคริปโต
ประเด็นถัดมาจะเห็นได้ว่าสมาชิกของพรรค รีพับลิกันจำนวนหลายคนเป็นผู้ที่ออกตัวสนับสนุนอุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซี อีกทั้งในรัฐบาลของเขาเองยังมีคนที่สนับสนุนคริปโตหลายคนรับตำแหน่งสำคัญในรัฐบาล ซึ่งนั่นรวมไปถึงตัวของทรัมป์เองด้วย
4. พรรครีพับลิกันเกลียดธนาคารกลาง
Yago ชี้ให้เห็นว่าทางพรรครีพับลิกันมีการสนับสนุนอุดมการณ์ของ Bitcoin โดยมุ่งหวังให้ระบบเงินปราศจากเงินเฟ้อ โดยหนึ่งในตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดคือ ร่างกฎหมายที่ถูกเสนอโดย Massie สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเสนอให้ยกเลิกธนาคารกลางสหรัฐฯ โดยมีผู้ร่วมลงนามถึง 24 รายในปีที่แล้ว
5. สหรัฐฯ ต้องจ่ายหนี้
ประเด็นสุดท้าย Yago มองว่า รัฐบาลสหรัฐฯ จำเป็นที่จะต้องชำระหนี้ที่ขณะนี้เป็นปัญหาที่กัดกินประเทศ โดยวุฒิสมาชิก Lummis ได้เสนอร่างกฎหมาย Bitcoin ให้รัฐบาลเข้าซื้อ 1 ล้าน BTC เพื่อลดหนี้สาธารณะโดยใช้เงินสำรองของทองคำที่ตีมูลค่าใหม่ ซึ่งกลยุทธ์ดังกล่าวสอดคล้องกับแนวคิดอนุรักษนิยมของพรรครีพับลิกันที่ให้ความสนใจในหลักการเงินที่มั่นคง
อย่างไรก็ตามปัจจัยทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นการวิเคราะห์จากบุคคลเดียวเท่านั้น และเหตุผลทั้งหมดอาจมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นได้ในภายหลัง

