<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Ethereum ETFs ทำสถิติใหม่! ปริมาณซื้อขายทะลุ 1.5 พันล้านดอลลาร์ ท่ามกลางนโยบายภาษี Trump

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ดูเหมือนว่ากองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยน (ETF) สำหรับ Ethereum ในสหรัฐฯ จะได้ทำสถิติใหม่ด้านปริมาณการซื้อขายเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ท่ามกลางความปั่นป่วนในตลาดคริปโตที่ได้รับผลกระทบจากประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของอดีตประธานาธิบดี Donald Trump

ข้อมูลจาก The Block ระบุว่า ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กองทุน Ethereum ETFs ทั้ง 9 กองทุน มีปริมาณการซื้อขายรวม 1.5 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 23% จากสถิติก่อนหน้าที่ 1.22 พันล้านดอลลาร์เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม และสูงสุดนับตั้งแต่วันเปิดตัวที่มีปริมาณ 1.11 พันล้านดอลลาร์

โดย BlackRock’s ETHA นำโด่งด้วยปริมาณการซื้อขาย 736 ล้านดอลลาร์ ตามมาด้วย Grayscale’s ETHE ที่ 415 ล้านดอลลาร์ และ Fidelity’s FETH ที่ 155 ล้านดอลลาร์ ทำให้ปัจจุบัน กองทุน Ethereum ETFs ในสหรัฐฯ มีปริมาณการซื้อขายรวมเกือบ 22 พันล้านดอลลาร์

ทว่า แรงกดดันมหาศาลหลังจากที่ Donald Trump ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจาก แคนาดาและเม็กซิโก 25% และภาษี 10% สำหรับพลังงานจากแคนาดา รวมถึงสินค้าจีน ทำให้ราคา Ethereum (ETH) ร่วงลง 36% แตะระดับ 2,100 ดอลลาร์ และ Bitcoin (BTC) ร่วงลงกว่า 10% แตะ 91,500 ดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม ราคา Ethereum ฟื้นตัวกลับมาแตะ 2,819 ดอลลาร์ หลังมีรายงานว่าการขึ้นภาษีนำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดาจะถูกระงับเป็นเวลา 1 เดือน หลังรัฐบาลของทั้งสามประเทศบรรลุข้อตกลงชั่วคราว 

ทว่ามาตรการภาษีต่อจีนยังคงเดินหน้าต่อไป โดยกระทรวงการคลังจีนได้ประกาศตอบโต้ด้วยการเรียกเก็บภาษี 15% สำหรับถ่านหินและก๊าซธรรมชาติเหลว และ 10% สำหรับน้ำมันดิบ เครื่องจักรกลการเกษตร และยานพาหนะบางประเภท ตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป ซึ่งส่งผลให้ตลาดคริปโตเกิดแรงขายรอบใหม่

แม้จะเผชิญภาวะตลาดผันผวน แต่ Ethereum ETFs ในสหรัฐฯ ยังคงดึงดูดเม็ดเงินไหลเข้า 83.6 ล้านดอลลาร์ มากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม โดย Fidelity’s FETH นำด้วย 49.7 ล้านดอลลาร์ ตามมาด้วย Grayscale’s ETHE และ ETH, 21Shares’ CETH ที่ดึงเม็ดเงินเพิ่ม 15.9 ล้านดอลลาร์, 12.8 ล้านดอลลาร์ และ 5.2 ล้านดอลลาร์ ตามลำดับ

ที่มา: TheBlock