<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

‘เดวิด แซคส์’ ผู้นำด้านคริปโทฯ ของทรัมป์ จัดงานแถลงข่าวครั้งแรกของสหรัฐฯ เกี่ยวกับ Bitcoin

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เมื่อวันที่ 5 ก.พ. 2025 รัฐบาลสหรัฐฯ จัดงานแถลงข่าวเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ โดยรัฐบาลประกาศเดินหน้าสนับสนุน Bitcoin และอุตสาหกรรมคริปโตอย่างเต็มตัว

ในงานแถลงข่าว เดวิด แซคส์ (David Sacks) เจ้าของตำแหน่ง ผู้นำด้านคริปโทฯ พร้อมด้วยนักการเมืองที่สนับสนุนคริปโต ให้คำมั่นว่า จะผลักดัน Bitcoin และสินทรัพย์ดิจิทัลให้เป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญภายใต้การบริหารของรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์

เดวิด แซคส์ กล่าวในคำปราศัยเปิดงานว่า “ในคำสั่งบริหารของประธานาธิบดีที่ออกมาในสัปดาห์แรก มีการกำหนดชัดเจนว่า รัฐบาลต้องสนับสนุนการเติบโตของสินทรัพย์ดิจิทัล เทคโนโลยี บล็อกเชน และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องในทุกภาคส่วนของเศรษฐกิจ”

เขาเน้นย้ำว่า คำสั่งบริหารดังกล่าวได้จัดตั้ง “คณะทำงานเฉพาะกิจ” เพื่อกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล รวมถึงการออกกฎหมายควบคุม Stablecoin ในสหรัฐฯ

“ยุคทอง” ของอุตสาหกรรม Bitcoin และคริปโทฯ ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

เดวิด แซคส์ ชี้ให้เห็นว่า รัฐบาลชุดใหม่มีจุดยืนที่แตกต่างจากยุครัฐบาลไบเดนอย่างชัดเจน

แซคส์กล่าวว่า “ผมได้พูดคุยกับผู้ก่อตั้งบริษัทคริปโตหลายรายในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และพวกเขาทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าสิ่งที่ต้องการจากรัฐบาลวอชิงตันมากที่สุดคือ กฎระเบียบที่ชัดเจน” 

โดยเขาเสริมว่า “ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา วงการคริปโตถูกดำเนินคดีอย่างไม่มีหลักเกณฑ์ที่ชัดเจน หน่วยงาน ก.ล.ต.สหรัฐฯ (SEC) ไม่เคยให้กฎเกณฑ์ที่แน่ชัด แต่กลับดำเนินคดีกับผู้ก่อตั้งโปรเจกต์คริปโตโดยไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า”

นอกจากนี้ แซคส์ ยังเผยอีกว่า หลายคนที่เปิดบริษัทคริปโตถูกปิดบัญชีธนาคารเพียงเพราะพวกเขาทำธุรกิจในอุตสาหกรรมนี้ ดังนั้น “ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่เราจะสร้าง ‘ยุคทอง’ สำหรับสินทรัพย์ดิจิทัล”

รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังพิจารณา “กองทุนสำรอง Bitcoin แห่งชาติ”

ก่อนงานแถลงข่าวจะสิ้นสุดลง แซคส์เปิดเผยว่า รัฐบาลกำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการสร้าง กองทุนสำรอง Bitcoin ของสหรัฐฯ ตามคำสั่งของประธานาธิบดีทรัมป์

โดย เดวิด แซคส์ กล่าวทิ้งท้ายว่า “หนึ่งในคำสั่งที่ประธานาธิบดีมอบหมายให้เราคือ การพิจารณาความเป็นไปได้ในการสร้างกองทุนสำรอง Bitcoin ดังนั้น นี่จะเป็นหนึ่งในสิ่งแรกๆ ที่เราจะให้ความสำคัญ ในฐานะคณะทำงานภายใต้รัฐบาลทรัมป์”

ที่มาข่าวและภาพ:bitcoinmagazine