<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Binance Research ชี้! กระแสเหรียญมีม และ ETFs ยังคงมาแรง หลังตลาดทำสถิติใหม่ต่อเนื่อง

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

รายงานล่าสุดจาก Binance Research ออกมาเปิดเผยว่าขณะนี้มีการยื่นขอ Crypto ETF ถึง 47 รายการในสหรัฐฯ พร้อมกับจำนวนการเปิดตัวเหรียญมีมที่พุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ โดยขณะนี้มีโทเคนหมุนเวียนมากกว่า 37 ล้านรายการ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่บน Solana

นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ตลาดคริปโตได้ทำสถิติสูงสุดอย่างต่อเนื่อง โดยมีสินทรัพย์หลายประเภททำกำไรได้ดี อย่างไรก็ตาม โครงการคริปโตที่เกี่ยวข้องกับ AI กลับเผชิญความยากลำบาก โดยเฉพาะจากผลกระทบของ DeepSeek

Binance Research ชี้ว่า การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของโทเคนใหม่นี้ เกิดมาจากกระแสของ Token Launchpads และความนิยมของเหรียญมีม โดยปัจจุบันมีโทเคนมากกว่า 37 ล้านรายการ และคาดว่าจะทะลุ 100 ล้านรายการ ภายในสิ้นปี แม้แนวโน้มนี้จะกระตุ้นการเก็งกำไรและปริมาณการซื้อขาย แต่ก็ส่งผลให้เงินทุนกระจายไปยังหลายโครงการ ทำให้โทเคนจำนวนมากรักษามูลค่าไว้ได้ยาก

แม้เหรียญมีมจะได้รับความนิยมสูง แต่รายงานกลับเตือนว่าการเพิ่มขึ้นของเหรียญเหล่านี้อาจทำให้นักลงทุนลดความสนใจใน Altcoins แบบดั้งเดิม และลดระดับการถือครองระยะยาว Binance ยังระบุว่าโทเคนจำนวนมากที่ถูกสร้างขึ้นนั้นไม่มีมูลค่าทางตลาดที่แท้จริง

อย่างไรก็ตาม การบูมของเหรียญมีมมีผลกระทบอย่างมากต่อ Decentralized Exchanges (DEXs) โดยเฉพาะบน Solana ทำให้ปริมาณซื้อขายบน DEX ของ Solana พุ่งสูงขึ้นจนมีสัดส่วนการซื้อขายสูงกว่า Ethereum ถึง 300% ในเดือนมกราคม

รายงานยังกล่าวถึงปัจจัยทางการเมืองที่ส่งผลกระทบต่อตลาดคริปโต โดยหลังจาก Donald Trump เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีและ Gary Gensler ลาออกจากตำแหน่งประธาน SEC ทำให้การยื่นขออนุมัติ ETF เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันมีการยื่นขอ ETF 47 รายการ ครอบคลุมสินทรัพย์ 16 ประเภท รวมถึง เหรียญมีมด้วย

โดยรวมแล้ว Binance Research สรุปว่า มกราคมเป็นเดือนที่แข็งแกร่งของอุตสาหกรรมคริปโต ยกเว้นโทเคนที่เกี่ยวกับ AI ซึ่งได้รับผลกระทบรุนแรงจาก DeepSeek อย่างไรก็ตาม DeFAI ซึ่งเป็นอีกหนึ่งภาคของ AI Crypto สามารถฟื้นตัวได้เล็กน้อยในช่วงปลายเดือน ลดความเสียหายที่เกิดขึ้น ในขณะที่ตลาดคริปโตโดยรวมยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

ที่มา: Coinpaprika